อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 10/2 วันที่ 16 พ.ย. 55

อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 10/2 วันที่ 16 พ.ย. 55

เพชรแท้อ่านออกเสียง “พ่ออยากให้เพชรมาพบพ่อที่...” เพชรแท้ไม่คุ้นสถานที่ “คืนนี้เวลาสามทุ่มตรง พ่อจะรอลูกอยู่ที่นั่น”
ธานินทร์อ่านในใจ “เพชรจะรอพ่ออยู่ที่นั่น...เพชรแท้”
เพชรแท้อ่านจดหมายจนจบ เงยหน้าขึ้น หน้าตาท่าทางประหลาดใจมาก
ธานินทร์พับจดหมายเก็บเข้าซองไป คิดไปคิดมา เป็นห่วงเพชรแท้จับใจรำพึงกับตัวเอง
“เพชรแท้”

ชนะศึกกำลังขับรถอยู่ กดโทรศัพท์มือถือ
“ฮัลโหล”
พยาบาลประจำวอร์ดรับสาย “สวัสดีค่ะ”
“ต่อห้องคุณธานินทร์หน่อย”
“ค่ะ เดี๋ยวจะโอนเข้าไปในห้องให้นะคะ”
พยาบาลกดโอนสาย

ภายในห้องพักเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แต่ธานินทร์ไม่ได้อยู่บนเตียงแล้ว เสียงโทรศัพท์ยังคงดังต่อเนื่อง
ชนะศึกรอสายอยู่นานแต่ไม่มีคนรับ เริ่มรู้สึกหงุดหงิด
เสียงโทรศัพท์ในห้องยังดังอยู่ พยาบาลเปิดประตูห้องเข้ามาดู มองหาธานินทร์
“คุณธานินทร์คะ คุณธานินทร์”



พยาบาลไม่เห็นธานินทร์อยู่ในห้อง ก็ตกใจ รีบยกหูบอกกับคนในสาย
“ฮัลโหล คุณธานินทร์ไม่อยู่ที่ห้องค่ะ ไม่ทราบว่าหายไปไหนแล้ว”
ชนะศึกกำลังขับรถอยู่ ตกใจมาก
“อะไรนะ หายไปอีกแล้วเหรอ คุณดูแลกันยังไง คนทั้งคนปล่อยให้หายไปได้”
“เมื่อกี๊ท่านก็ยังอยู่นะคะ ดิฉันไม่ทราบจริงๆ ว่าท่านหนีไปตั้งแต่เมื่อไหร่ พอเอาจดหมายไปให้ ท่านก็ยังนั่งอ่านอยู่เลย” พยาบาลหน้าเจื่อนไป
“จดหมายเหรอ” ชนะศึกสงสัย “จดหมายอะไร”
“จดหมายจากคนชื่อเพชรแท้ค่ะ ท่านได้รับแล้วก็ยังนั่งอ่านอยู่บนเตียงค่ะ”

ชนะศึกอึ้งไป แล้วตัดสินใจหักพวงมาลัยเปลี่ยนเส้นทางทันที
รถมอเตอร์ไซค์ของเพชรแท้แล่นมาตามทางในซอยเปลี่ยว ก่อนจะจอดนิ่งที่หน้าบ้านร้างสถานที่นัด เพชรแท้ถอดหมวกกันน็อคลงจากรถ กวาดตามองไปรอบๆ ก่อนจะเดินมาที่รั้ว หยิบจดหมายขึ้นมาดูเทียบเลขที่บ้าน

ขณะเดียวกันรถแท็กซี่แล่นมาตามท้องถนน เส้นทางออกนอกเมือง ธานินทร์มองเส้นทางที่ไม่คุ้น แล้วดูจดหมายอีกที ท่าทางกังวลใจ ชะโงกหน้าบอกแท็กซี่
“เขาบอกว่าให้ไปที่...” ธานินทร์บอกชื่อสถานที่ “ไปถูกแน่นะ หลานชาย”
“ครับ ไม่ต้องห่วง ผมวิ่งแถวนี้บ่อย ๆ ไม่หลงหรอก” แท็กซี่รับคำ
“เร็ว ๆ เข้าหน่อยล่ะ...ลูกชายฉันเขารออยู่”
ธานินทร์เร่ง ก่อนจะเอนตัวพิงพนักอย่างเหนื่อยอ่อย ใจกังวลถึงเพชรแท้

ทางด้านเพชรแท้มองไปรอบๆ ด้วยสีหน้าฉงน ค่อนข้างแปลกใจกับสภาพบ้านที่ดูรกร้าง บ่นพึมพำ
“นัดมาทำอะไรที่นี่ แปลกจัง
เพชรแท้เปิดประตูรั้วเข้าไปในบ้าน

เวลาเดียวกันชนะศึกเดินตรงเข้ามาที่รั้วบ้านพรรณีเพื่อมาตามหาพ่อ ท่าทางร้อนใจมาก ชายหนุ่มกวาดตามองไปรอบๆ บ้าน แต่ไม่เห็นมีใครอยู่ จึงตะโกนเรียก
“มีใครอยู่ไหม”
ไม่มีเสียงตอบ ชนะศึกร้อนใจ เดินตรงไปที่ประตูบ้านเห็นยังล๊อคไว้ เคาะประตู
“มีใครอยู่บ้านไหม เปิดประตูที”
ชนะศึกชะเง้อชะแง้เขย่าแม่กุญแจที่ประตู เสียงพิณทองดังมาจากข้างหลัง
“นั่นคุณจะทำอะไรน่ะ”
“ผมมาหานายเพชรแท้ พี่ชายคุณอยู่ไหน”
พิณทองสงสัย “มาหาเขาทำไม”
ชนะศึกท่าทีฉุนเฉียว “ก็ไม่อยากจะมาหรอกนะ...แต่พี่ชายคุณส่งจดหมายไปให้พ่อผม แล้วพ่อผมก็หนีออกจากโรงพยาบาลไป ท่านจะไปไหนได้ ถ้าไม่ได้มาหาพี่ชายคุณ”
“ฉันไม่รู้”
“พี่น้องกันมีหรือจะไม่รู้ บอกผมมานะ พิณทอง พี่ชายคุณนัดพ่อผมไปไหน ทำอะไร”
“บอกแล้วไงว่าฉันไม่รู้เรื่อง”
ชนะศึกลืมตัวจับแขนพิณทองบีบแรงๆ คาดคั้น
“นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะ พ่อผมอาการหนักมาก การออกมาแบบนี้อาจจะเป็นอันตรายกับท่านก็ได้”
พิณทองรู้สึกเจ็บพยายามสะบัดออก “ก็บอกแล้วไงว่าไม่รู้”
“ผมไม่เชื่อ”
“ฉันไม่เคยโกหกใคร โอ๊ย...เจ็บ”
พิณทองเจ็บจนร้องไห้ออกมา ชนะศึกตกใจ ปล่อยมือ
“พิณทอง ผมขอโทษ
“คุณออกไปซะ”
ชนะศึกอึกอัก พิณทองย้ำ
“คุณออกไป”
ชนะศึกยังดื้อดึงไม่ไป พิณทองผลักชนะศึก แล้วรีบไขกุญแจเข้าบ้านไป
“พิณทอง เดี๋ยวก่อน พิณทอง” ชนะศึกเคาะประตูเรียก
พิณทองตกใจ เสียใจยืนร้องไห้พิงประตู ขณะที่ชนะศึกหงุดหงิด กังวลใจ

ชนะศึกเดินหงุดหงิดกลับมาที่รถตรงหน้าปากซอย ขึ้นรถแล้วปิดประตู ครู่หนึ่งพรรณีซึ่งเดินกลับเข้ามาพร้อมด้วยถุงกับข้าวในมือ ชะงักเมื่อมองเห็นชนะศึกกำลังขับรถแล่นออกไป พรรณีพึมพำกับตัวเองอย่างแปลกใจ เห็นสีหน้าชนะศึกไม่ค่อยดี
“มาทำไมของเขา”
แต่ชนะศึกไม่เห็นพรรณี

พอเข้าบ้านมาพรรณีถามพิณทองเรื่องชนะศึกทันที พิณทองบอกเสียงเศร้า
“เขามาตามหาพ่อของเขาจ้ะ” น้ำเสียงพิณทองเมื่อพูดประโยคต่อมา เปลี่ยนเป็นเคืองๆ “พ่อเขาหายตัวไปจากโรงพยาบาล เขาหาว่าพี่เพชรส่งจดหมายไปนัดท่านออกมา”
พรรณีงง “เพชรนัดคุณธานินทร์ออกไปมาหาเหรอ จะเป็นไปได้ยังไง”
“นั่นสิแม่...แต่ท่าทางเขาโมโหมาก ท่านคงจะหายไปจริงๆ”
พรรณีสังหรณ์ใจประหลาด คิดว่าต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากลแน่ ๆ
“แล้วพิณรู้ไหมว่าตอนนี้พี่เขาอยู่ไหน”
พิณทองส่ายหน้า พรรณีนิ่งคิดตริตรองด้วยความกังวล

เวลานั้นเพชรแท้เดินเข้ามาในบ้านร้างที่นัดหมาย เห็นสภาพบ้านทรุดโทรม มีเฟอร์นิเจอร์เก่าๆ อยู่บ้าง เพชรแท้มองไปรอบๆ ตัวก็ยิ่งแปลกใจ ร้องเรียกธานินทร์พร้อมกับมองหา
“พ่อครับ...พ่อ...พ่อครับ”
หาทั่วข้างล่างก็ไม่เห็น เพชรแท้จึงเดินขึ้นบันไดมองหาชั้นบน
“พ่อครับ”
เพชรแท้ไม่เห็นใคร เลยลงมาข้างล่าง สักครู่หนึ่งธานินทร์จึงเดินเข้ามา
“เพชรแท้”
เพชรแท้หันมา มองธานินทร์ เรียกน้ำเสียงอ่อนโยน “พ่อ...” ขณะเดินเข้าไปหาธานินทร์
“พ่อขอโทษที่มาช้า พ่อไม่เคยมาแถวนี้ เลยหลงทางไปซะไกล”
ฟังที่พ่อบอกเพชรแท้แปลกใจมาก
“แล้วทำไมเราถึงต้องมาที่นี่ด้วยล่ะ” ธานินทร์มอง ท่าทีแปลกใจ “มันเกี่ยวอะไรกับความลับของพ่อหรือเปล่า”
ธานินทร์ฉงนหนัก “อะไรนะ ลูกพูดเรื่องอะไร”
“เรื่องความลับของพ่อไง...พ่อส่งจดหมายบอกผมว่าพ่อมีความลับอะไรอยากจะบอก”
“เดี๋ยวๆ พ่อน่ะเหรอ ส่งจดหมายหาลูก”
เพชรแท้ควักจดหมายออกมา “นี่ไง”
ธานินทร์รับมาดู สังหรณ์ใจวูบหนึ่ง
“มีอะไรหรือเปล่า ทำไมทำหน้ายังงั้น”
“จดหมายนี่ไม่ใช่ของพ่อ”
ธานินทร์ควักจดหมายของตัวเองขึ้นมา ส่งให้เพชรแท้ ซึ่งเพชรแท้อ่านด้วยสีหน้าแปลกใจ
“ถ้าให้พ่อเดา...พ่อเดาว่าจดหมายนั่นก็คงไม่ใช่ของลูก”
“นี่มันหมายความว่ายังไง”
ทั้งสองมองหน้ากัน ก่อนจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็ได้ยินเสียงประตูถูกปิดดังปัง และเหมือนมีมือของใครคนหนึ่งกำลังใส่กุญแจประตูล็อคจากทางด้านนอก
“เฮ้ย...” เพชรแท้ร้องหลังฟังอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อได้สติจึงรีบวิ่งไปที่ประตู “ประตูเปิดไม่ได้ นี่มันอะไรกัน”
เพชรแท้พยายามเขย่าประตู กระแทกเท่าไหร่ แต่ก็ไม่หลุด ธานินทร์กับเพชรแท้เริ่มลนลาน
เวลาต่อมาเพชรแท้วิ่งไปที่หน้าต่าง พยายามเปิด แต่ก็ไม่สำเร็จอีก ธานินทร์พยายามช่วย แต่ปรากฏว่าหน้าต่างทุกบานโดนปิดตาย!
ธานินทร์รำพึง “เราถูกขัง”
เพชรแท้โมโหปาจดหมายลงพื้น “อะไรกันนี่” ทุบประตูตะโกนก้อง “เฮ้ย ใครอยู่ข้างนอก” เพชรแท้ออกแรงทุบประตูเป็นการใหญ่ “เปิด ได้ยินไหม กูบอกให้เปิดประตูเดี๋ยวนี้”
ธานินทร์ตะโกนช่วยอีกคน “เปิดนะ คุณเป็นใครมาปิดประตูขังพวกเราไว้ทำไม”

จังหวะนั้นเอง สองพ่อลูกไม่ทันเห็นว่ามีน้ำมันก๊าดค่อยๆ ไหลนองเข้ามาภายในบ้าน
ธานินทร์พูดไม่ทันขาดคำ เพชรแท้ก็ได้กลิ่นอะไรแปลกๆ ชายหนุ่มทำจมูกฟุดฟิด พร้อมกับมองหาที่มา

“กลิ่นอะไร”
“อะไรลูก” ธานินทร์สงสัย
“ผมได้กลิ่น...เหมือนน้ำมันก๊าด”
ว่าพลางเพชรแท้ค่อยๆ ก้มลงมองไปที่เท้า เห็นพื้นเปียกเฉอะแฉะมีน้ำมันลอย ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง เห็นที่ท่อน้ำตรงมุมห้องมีน้ำมันรั่วออกมา เพชรแท้ชักเดาออก ตกใจสุดขีด
“เฮ้ย”
ไวเท่าความคิดเพชรแท้กระชากมือธานินทร์วิ่งไปที่บันได วินาทีเดียวกับไฟที่ถูกจุดมาจากด้านหลังบ้านเปลวไฟวิ่งพรึบเป็นทางมาตามน้ำมันที่เจิ่งนองทั่วพื้นบ้าน
ไฟไหม้ลามตามรอยเท้าของสองพ่อลูกสว่างวาบเป็นทาง เพชรแท้พาธานินทร์หนีขึ้นบันไดไปได้อย่างหวุดหวิด ไฟไหม้ลุกโชนไปทั่วบริเวณชั้นล่าง
“หนีขึ้นไปข้างบนก่อน หนีไป”
เพชรแท้ถอดเสื้อคลุมตัวนอกของตัวเองออก มาคลุมให้ธานินทร์ และพาพ่อหนีขึ้นไปยังชั้นสอง จังหวะนั้นเพชรแท้นึกได้ จะวิ่งกลับไปเก็บจดหมายที่พื้น แต่ไม่ทัน เพราะจดหมายทั้งสองฉบับนั้นถูกไฟไหม้ไปหมดแล้ว

เพชรแท้พาธานินทร์ขึ้นไปบนชั้นสองแล้ว สองคนวิ่งไปทางโน้นทางนี้ พยายามหลบเข้าไปในมุมที่ปลอดภัยที่สุดขณะเดียวกันเพชรแท้พยายามหาทางจะเปิดหน้าต่างออกไป แต่หน้าต่างชั้นสองก็ถูกปิดตายจากข้างนอกเช่นกัน
“โธ่เว้ย”
ธานินทร์ตกใจตั้งข้อสังเกต “นี่มันอะไรกัน เพชร มีคนจะเผาเราให้ตายทั้งเป็นงั้นหรือ”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ต้องกลัวนะ ผมจะพาพ่อออกไปให้ได้”
เพชรแท้บอกอย่างมุ่งมั่นแล้วหาทางกระแทกหน้าต่างออกไป ควันจากชั้นล่างเริ่มลอยเข้ามา เสียงโทรศัพท์มือถือของเพชรแท้ดังขึ้น
เพชรแท้รีบรับสาย “ฮัลโหล”
เป็นพรรณี ที่อยู่ในตู้โทรศัพท์สาธารณะโทร.มา
“เพชร เพชรอยู่ที่ไหนลูก”
“แม่ เพชรถูกขังอยู่ในบ้านร้างแถว...” เพชรแท้บอกชื่อสถานที่ “ออกไปไม่ได้ ไฟกำลังไหม้ด้วย”
พรรณีตกใจมาก “ตายจริง แล้วท่านอยู่กับเพชรหรือเปล่า
“อยู่จ้ะ เราสองคนโดนหลอกให้มาเจอกัน เพชรกำลังหาทางหนีออกจากบ้าน เท่านี้ก่อนนะแม่ ไฟลามขึ้นมาแล้ว”
เพชรแท้วางสายไปแล้ว พรรณีใจสั่น
“เพชร เพชร”

เพชรแท้เอาเก้าอี้เก่าๆ ในห้อง ฟาดสุดแรงหวังทลายหน้าต่างเพื่อหาทางออกไป ธานินทร์เริ่มสำลักควันไฟ ทรุดตัวลงพิงผนัง ทำท่าจะหมดแรง
“อดทนหน่อยนะพ่อ อดทนหน่อย”
เพชรแท้พยายามต่อไป บานหน้าต่างเกือบจะหลุดแล้ว แต่ไฟเริ่มไหม้ลามเลียมาตามคาน
เพชรแท้กระแทกหน้าต่างสุดแรง แข่งกับเปลวไฟที่โหมไหม้แรงขึ้นๆ แรงกระแทกทำให้ไม้ที่ไหม้ไฟหล่นลงมาใส่เพชรแท้ ธานินทร์เห็น ร้องสุดเสียง
“เพชรระวัง”
พร้อมกันนั้นธานินทร์รวบรวมแรงกายวิ่งเอาตัวเองเข้าไปขวางไว้ แล้วผลักเพชรแท้ออกไปอีกทาง ไม้หล่นใส่ตู้ใบใหญ่ ล้มมาทับช่วงขาของธานินทร์
เพชรแท้ตกใจสุดขีดร้องลั่น “พ่อ”
ธานินทร์ร้อง “โอ้ย” ด้วยความเจ็บปวด
เพชรแท้ซึ่งล้มอยู่รีบพยุงกายขึ้น ตะเกียกตะกายมาช่วยธานินทร์ พยายามใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีดันตู้ออกจากขาพ่อจนสำเร็จ
ธานินทร์หมดแรง ทรุดลง เพชรแท้รีบเข้ามาประคอง
“พ่อเป็นอะไรหรือเปล่า”
ธานินทร์หอบหายใจถี่ๆ “ไม่เป็นไร”
ไฟเริ่มโหมไหม้ลุกโชตช่วงมากขึ้นจนจะกลืนกินบ้านทั้งหลัง
“เราต้องไปแล้วพ่อ”
เพชรแท้ลุกขึ้น พยุงตัวธานินทร์เดินไปด้วยกัน แต่ธานินทร์เจ็บขา ล้มลงไปอีก
“ทำใจดีๆ ไว้พ่อ พ่อต้องอดทน มานั่งนี่ก่อน” เพชรแท้พาธานินทร์ไปนั่งอีกมุมหนึ่ง
ไฟลุกโชนโหมแรงมากขึ้นๆ

ขณะเดียวกันพรรณีกับพิณทอง นั่งจับมือกันอยู่ในรถแท็กซี่ กระวนกระวายใจ
พรรณีร้องไห้ปากก็บอกพร่ำกับคนขับ “ขับเร็ว ๆ หน่อยซี” หันมาหาพิณทองหน้าซีด “เพชรจะเป็นยังไงบ้าง”
“พี่เพชรต้องปลอดภัยจ้ะแม่”

พิณทองเองก็ร้องไห้ออกมาด้วย
ส่วนที่ชั้นบนบ้านร้าง เพชรแท้พยายามพังประตู หน้าต่างต่อไป ในขณะที่ไฟกำลังลุกไหม้ ธานินทร์นั่งอยู่รู้สึกเจ็บแผล แต่เอาใจช่วยเพชรแท้ จังหวะหนึ่งเพชรแท้ใช้มือดึงประตูจนได้แผลเลือดไหลออกมา

ธานินทร์ตกใจ “เพชร เป็นอะไรหรือเปล่าลูก”
“ไม่เป็นอะไรพ่อ”
เพชรแท้พังประตูต่อไป ในขณะที่ไฟค่อยๆ โหมไหม้เข้ามาเรื่อยๆ ขื่อ และคานไม้ เริ่มถูกไหม้ไฟจนตกหล่นลงมา
เป็นระยะ ในที่สุดเพชรแท้ก็พังประตูสำเร็จ เขารีบเดินออกไปดูตรงระเบียง และกลับมาหาธานินทร์
“เรารอดแล้ว เราออกไปได้พ่อ เราออกไปได้”
เพชรแท้พยายามพยุงตัวธานินทร์ แต่ธานินทร์เจ็บทั้งแผลใหม่กับโรคร้ายที่รุมเร้าจนลุกไม่ไหว
“พ่อไม่ไหวแล้ว”
“พ่ออดทนไว้นะ พ่อต้องไปไหว ต้องไปไหว พ่อไม่ไป ผมก็ไม่ไป เราต้องไปด้วยกัน ผมไม่มีวันทิ้งพ่อ”
“เพชร ลูกไปเถอะ ถ้าพ่อไปเดี๋ยวจะพาลูกตกไปเปล่าๆ พ่อไม่ไป พ่อไม่ไป” ธานินทร์ห่วงสายโลหิตมากกว่าตัวเอง
“ไม่พ่อ พ่อต้องไป เราต้องทำได้” เพชรแท้บอกอย่างเด็ดเดี่ยว “ผมจะพาพ่อไปให้ได้ เดี๋ยวผมทำให้ดูนะ”

เพชรแท้ออกมาที่ระเบียง แล้วปีนข้ามระเบียงไม้ออกไป พยายามอธิบายให้ธานินทร์ฟัง
“ผมจะข้ามออกมา แล้วจะให้พ่อค่อยๆ เกาะลงไป...พ่อต้องทำได้ เชื่อผมซี พ่อต้องทำได้”
ธานินทร์มองเพชรแท้นิ่ง ท่าทีลังเลหนัก
“เดี๋ยวผมไปช่วยนะ”
เพชรแท้จะเดินเข้ามาพยุงพ่อ แต่กลับถูกธานินทร์ร้องห้าม
“หยุด ไม่ต้อง”
ธานินทร์พยายามเดินไปด้วยตัวเองจนออกมาถึงระเบียง
เพชรแท้เอื้อมมือไปรับธานินทร์ ทั้งคู่กอดกันร้องไห้
ระหว่างนั้น ไฟไหม้ลามเลียมาใกล้แทบจะไหม้ตัว จนธานินทร์รู้สึกเจ็บปวดแสบร้อนมากขึ้น
ธานินทร์จับหน้าเพชรแท้เหมือนจะจดจำดวงหน้านี้ไปนานเท่านาน
“คราวนี้...พ่อนอนตายตาหลับแล้ว เพชร” ธานินทร์สวมกอดลูกชายอีกครั้งอย่างเต็มรัก “ลูกจำไว้นะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พ่อรักลูกของพ่อ พ่อรักลูก”
ไฟลามเลียเข้ามาใกล้ ควันหนาขึ้นทุกที
ธานินทร์น้ำตาไหลริน เห็นเปลวไฟล้อมใกล้เข้ามา ตระหนักชัดว่าอีกไม่นานไฟก็จะลามมาถึงตัว และรู้ตัวดีว่าร่างกายตนไม่ไหวแล้ว ธานินทร์ตัดสินใจเอามือสองข้างจับไหล่เพชรแท้ จดสายตามองหน้าลูกชายนิ่งนาน เหมือนกับว่าจะไม่ได้เห็นใบหน้านี้อีกแล้ว
ธานินทร์รวบกำลังผลักเพชรแท้สุดแรงจนร่างกระเด็นลงไปยังพื้นด้านล่าง ไฟไหม้กระพือโหมขึ้นมาโดยรอบ
เพชรแท้ตกลงไปที่พื้นหญ้า ธานินทร์โซเซอยู่ที่ระเบียง ไม่มีแรงลุกขึ้นมาอีกแล้ว
เพชรแท้ใจหายวาบพยายามตะกายขึ้นมา เห็นร่างธานินทร์ผู้เป็นพ่ออยู่ท่ามกลางกองเพลิงที่ลุกโชติช่วง ไม่อาจจะกลับเข้าไปช่วยได้
เพชรแท้ตะโกนก้อง “พ่อ...พ่อทำแบบนี้ทำไม ทำแบบนี้ทำไม”

จังหวะนั้นพิณทอง และพรรณีมาถึงพอดี เห็นไฟไหม้ไปทั้งหลังแล้ว ก็ยิ่งตกใจ
“เพชร” พรรณีโผเข้าหารั้งไว้ “อย่าลูก อย่าเข้าไป คุณธานินทร์ล่ะ”
“แม่ผมช่วยพ่อไม่ได้ พ่ออยู่ในนั้น” เพชรแท้ร้องไห้โฮ “พ่ออยู่ในนั้น” ตะโกนสุดเสียง “พ่อ”
พรรณีมองขึ้นไปชั้นบน เห็นธานินทร์อยู่ในกองไฟใจจะขาดรอนๆ “ธานินทร์ โธ่ธานินทร์”
ระหว่างนั้นยินเสียงไซเรนรถดับเพลิงดังมาแต่ไกล ขณะที่พรรณีกอดเพชรแท้ร้องไห้แทบขาดใจ

ครู่ต่อมาเพชรแท้ไม่ยอมยังพยายามจะเข้าไปช่วยธานินทร์ แต่ถูกรั้งตัวไว้โดยพนักงานดับเพลิง นาทีเป็นนาทีตายนั้นธานินทร์มองเห็นพรรณีกอดเพชรแท้ที่ร้องไห้ ราวกับจะจดจำสองคนที่เขารักมากที่สุดไว้ตราบนานเท่านาน
ไฟล้อมตัวธานินทร์ไว้หมดทุกทิศ ธานินทร์มองลงไปเป็นครั้งสุดท้าย แม้จะเจ็บปวดเหลือแสน แต่ใบหน้าของเขากลับมีแต่รอยยิ้ม เมื่อได้เห็นพรรณี และได้ยินเสียงเพชรแท้เรียกตนว่า “พ่อ...” เต็มปาก เต็มคำและเต็มใจ
ร่างของธานินทร์ค่อยๆ ล้มลงกับพื้น ใบหน้าสงบนิ่ง
รถดับเพลิงมาถึง พนักงานช่วยกันลากสายยางเข้ามาฉีดน้ำดับเปลวเพลิงอย่างขันแข็ง

ที่บริเวณสนามหน้าบ้าน เพชรแท้ทรุดตัวลงคุกเข่าร้องไห้ พรรณีกอดเพชรแท้ไว้ มองดูบ้านที่ถูกไฟลุกลามท่วมทั้งหลัง ร้องไห้ปิ่มว่าขาดใจ
“พ่อ...ทำไมพ่อไม่เชื่อผมล่ะ”
“คุณธานินทร์ได้ยินไหมฉันรักคุณ คุณธานินทร์”
พิณทองมองภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า ร้องไห้ออกมาด้วยความสลดหดหู่ใจ

เวลาเดียวกันอังคณายืนนิ่งอยู่ในห้องทำงานธานินทร์ พึมพำกับตัวเองดวงตาวาวโรจน์
“จบสิ้นกันเสียที ในที่สุดฉันก็เป็นฝ่ายชนะ ลาก่อนนะธานินทร์”

จังหวะที่ชนะศึกกำลังเดินเข้าบ้านมา เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล”
เป็นพิณทองซึ่งอยู่ที่โรงพยาบาล ร้องไห้ไปด้วยขณะบอกชนะศึก
“ฮัลโหล คุณชนะศึกเหรอคะ”
ชนะศึกแปลกใจในเสียงสะอื้น “เป็นอะไร”
“คุณช่วยมาที่โรงพยาบาล...(ชื่อ) ด่วนเลยนะคะ คุณพ่อของคุณอยู่ที่นี่”
ชนะศึกตกใจ “คุณพ่อของผมอยู่ที่โรงพยาบาลเหรอ ไปได้ยังไง ท่านเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ท่าน..” พิณทองสะอื้นฮักๆ “ท่านกับพี่เพชรติดอยู่ในบ้านที่โดนไฟไหม้ รถดับเพลิงช่วยออกมาไม่ทัน ท่าน ท่าน...เสียแล้วค่ะ”
จากนั้นพิณทองก็ร้องไห้โฮวางสายไป

ชนะศึกยืนตัวชาไปทั้งร่าง ตะลึง อึ้ง ช็อคสุดขีด ไม่มีเรี่ยวแรง โทรศัพท์ร่วงหลุดมือโดยไม่รู้ตัว
ชนะศึกเคาะประตูห้องชนกนันท์อย่างร้อนใจ

“นก นกเปิดประตูหน่อย”
ชนกนันท์ในชุดเสื้อคลุมอยู่กับบ้านเปิดประตูออกมา

อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 10/2 วันที่ 16 พ.ย. 55

เค้าโครงเรื่อง : ทีมเอ็กแซ็กท์
บทโทรทัศน์ : กษิดินทร์ แสงวงษ์ , ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์
กำกับการแสดง : นิพนธ์ ผิวเณร
อำนวยการผลิต : นิพนธ์ ผิวเณร, ถกลเกียรติ วีรวรรณ
แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ออกอากาศ : จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 5
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่มตอนแรกอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manager.co.th