อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 13 วันที่ 21 พ.ย. 55

อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 13 วันที่ 21 พ.ย. 55

อังคณาตกใจ “เรืองโรจน์! แกอยู่ที่ไหน”
“ช่างผมเถอะ ผมกำลังเดือนร้อน ตำรวจตามล่าผม วันนี้ไอ้เพชรมันเจอผมด้วย ผมไม่รู้จะหนีไปไหนแล้ว คุณต้องช่วยผม”
“แกจะเอายังไง”
“ผมต้องหนีออกนอกประเทศ ผมต้องการเงินไว้ใช้จ่าย คุณต้องเอามาให้ผม...ยี่สิบล้าน” เรืองโรจน์เน้นคำ
อังคณาฉุนกึก “ยี่สิบล้านเรอะ มันมากไป”

เรืองโรจน์ขู่ทันที “ไม่มากหรอก เมื่อเทียบกับหลักฐานที่ผมมี หลักฐานที่จะเอาคุณเข้าคุกได้”
อังคณางง “หลักฐาน...หลักฐานอะไรของแก”



เรืองโรจน์มองซ้ายมองขวาก่อนพูด
“ตอนที่เราคุยกัน ผมแอบอัดเสียงของคุณเอาไว้ ข้อความในนั้นมันจะบอกให้คนรู้ว่า คุณอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ทั้งหมด ถ้าผมไม่รอด...ผมจะส่งซิมการ์ดนั้นให้ตำรวจ”
อังคณาตกใจมาก เหมือนคนจะหมดแรง เงียบไปนิดหนึ่ง “แกจะเอาไง
“เอาเงินยี่สิบล้านไปให้ผม เจอกันที่ใต้ทางด่วนเมืองทอง ตีสอง คืนนี้”
“เงินขนาดนั้น ฉันหาไม่ทันหรอก”
“ต้องทันซี จำเอาไว้นะ ถ้าคืนนี้ ผมไม่ได้เงิน...ผมจะส่งหลักฐานนี้ให้ไอ้เพชรแท้ มันคงดีใจมากเลยถ้าเอาคุณเข้าตารางได้”
อังคณาตกใจจนทำโทรศัพท์ร่วงหล่นลงพื้น แล้วพยายามพยุงตัวเองไปทรุดลงนั่งที่เตียง เสียงเรืองโรจน์ยังดังออกมาจากโทรศัพท์
“คุณอังคณา...ยังฟังอยู่ไหม คุณอังคณา จำไว้นะ ผมต้องได้เงินยี่สิบล้าน ไม่เช่นนั้นคุณได้ไปนอนในคุกแน่”
อังคณามองโทรศัพท์ที่มีเสียงเรืองโรจน์ลอดออกมาด้วยความกลัวความผิดจับใจ

อังคณาแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย พร้อมที่จะออกไปข้างนอก เดินมาที่ตู้เซฟหยิบเงินใส่กระเป๋า รูดซิปปิด ก่อนจะเหลือบตาดูนาฬิกา บอกเวลาเที่ยงคืน อังคณาหยิบกุญแจรถ คว้ากระเป๋า แล้วเดินตรงไปที่ประตู
อังคณาเปิดประตูได้นิดหนึ่งต้องชะงัก เพราะเห็นชนะศึกเปิดประตูห้องของเขาออกมาพอดี
อังคณาตกใจสุดขีด รีบปิดประตูปัง แล้วเดินไปหยิบเสื้อคลุมนอนมาสวมปิดทับชุดไว้
ชนะศึกรู้สึกแปลกใจ ร้องเรียก
“คุณแม่ครับ”
ชนะศึกจะเปิดประตู ปรากฏว่าล็อค ชนะศึกยิ่งแปลกใจ เคาะประตู
“คุณแม่มีอะไรหรือเปล่า คุยกับผมหน่อยได้ไหมครับ...คุณแม่ครับ คุณแม่...”
อังคณาเปิดออกมา สวมเสื้อคลุมมิดชิดเหมือนจะเข้านอน กระเป๋าถูกเอาไปซ่อนแล้ว
“คุณแม่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
อังคณาตีหน้าซื่อ “เปล่านี่”
“ตะกี๊ทำไมทำหน้าแปลกๆ...เหมือนตกใจอะไรซักอย่าง”
“ไม่มีอะไร ชนะยังไม่นอนอีกหรือ”
“ผมนอนไม่หลับ เผอิญเห็นไฟห้องแม่เปิดอยู่ เลยคิดว่า...”
อังคณาตัดบท “แม่กำลังจะเข้านอน ง่วงแล้ว ชนะมีอะไรเอาไว้คุยกันพรุ่งนี้แล้วกันนะ”
อังคณาจะปิดประตู ชนะศึกจับประตูไว้
“เดี๋ยวครับ คุณแม่”
อังคณากลัวระคนระแวง พยายามข่มไว้ “อะไรอีก”
“ไม่มีอะไรแน่นะครับ”
อังคณาฝืนยิ้ม “ไม่มีจ้ะ นอนเถอะ กู้ดไนท์”
“กู้ดไนท์ครับ”
อังคณาปิดประตูห้อง ชนะศึกยืนนิ่งคิดกังวล

ด้านชนกนันท์นอนไม่หลับ นั่งใจลอยมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง เห็นท้ายรถของอังคณาวิ่งออกไปจากบ้าน ก็แปลกใจ
“รถคุณแม่นี่” หันไปดูนาฬิกาเที่ยงคืนกว่าแล้ว “ไปไหนของเขา”

ชนกนันท์มองตามไปอย่างสงสัย
อังคณาขับรถมาถึงถนนใต้ทางด่วน บริเวณนั้นเปลี่ยวมาก มองไปรอบๆ ไม่มีรถหรือคนผ่านไปมาเลย ก็ยิ่งรู้สึกกลัว อังคณาเปิดประตูลงมาจากรถมองหา และร้องเรียกเรืองโรจน์

“เรืองโรจน์”
อังคณาหันหลังกลับมา เรืองโรจน์มายืนอยู่ด้านหลังแล้ว
“อยู่ไหน เงินอยู่ไหน”
อังคณาอึกอัก “เรืองโรจน์...คือฉัน”
“ไม่ได้เอามาเหรอ คุณไม่เอาเงินมาเหรอ”
“เอามา อยู่ในรถ”
เรืองโรจน์หันไปที่รถอังคณาทันที กำลังจะเดินไป อังคณารีบเข้าไปขวาง
“แล้วหลักฐานล่ะ”
“หลักฐานอะไร”
“หลักฐานที่แกว่าแกมีน่ะ เอามาให้ฉันก่อน ไม่งั้นฉันไม่ให้เงินแก”
“ผมต้องการเงินก่อน”
“ไม่ได้ เอาหลักฐานมาก่อน”
เรืองโรจน์ผลักอังคณาออกไป “หลีกไป”
เรืองโรจน์เดินมาเปิดประตูรถ พอเห็นกระเป๋าวางอยู่ก็หยิบออกมา
“ได้เงินแล้วก็เอาหลักฐานมาให้ฉันซี” อังคณาเร่ง
“ผมไม่ได้เอามา”
“อะไรนะ แกจะทำอย่างนั้นไม่ได้นะ อย่างนี้วันหลังแกก็จะมาเรียกร้องเอาเงินจากฉันอีกน่ะซี”
เรืองโรจน์บอก “ใช่ เงินผมหมดผมก็จะมาเอาจากคุณอีก”
“แกจะโกงฉันเหรอ”
“ทำไมผมต้องต้องซื่อสัตย์กับคนเลวอย่างคุณด้วย คุณเองก็ไม่เคยให้สิ่งที่สัญญากับผมไว้เลย”
เรืองโรจน์เปิดกระเป๋าดู เห็นมีเงินในนั้นล้านกว่าบาทก็โมโห
“อะไรเนี่ย นี่มันไม่ใช่เงินยี่สิบล้านนี่”
“แกก็เอาหลักฐานมาให้ฉันก่อนซี เดี๋ยวส่วนที่เหลือจะตามมา”
“อีบ้า”
เรืองโรจน์โกรธจัดตบหน้าอังคณาฉาดใหญ่ จนอังคณาหงายหลังไป
“จนถึงขนาดนี้มึงยังจะมาเล่นเล่ห์เหลี่ยมกับกูอีกเหรอ อยากติดคุกมากใช่ไหม อยากไปนอนกับพวกฆาตกรในนั้นนักเหรอ”
“ถ้าแกไม่เอาหลักฐานมาให้ฉัน ก็อย่าหวังเลยว่าจะได้เงิน”
อังคณาลุกขึ้นยื้อแย่งกระเป๋าเงินจากเรืองโรจน์
“ถ้ามึงอยากได้หลักฐาน มึงต้องเอาเงินทั้งหมดมาให้กู”
“ฉันให้แกแน่ ถ้าฉันได้หลักฐานนั่นเสียก่อน”
อังคณาแย่งกระเป๋าเงินคืนมาได้ แล้วรีบวิ่งกลับไปขึ้นรถ เรืองโรจน์วิ่งตามมา แต่พลาดลื่นหกล้ม อังคณาจึงหนีเข้ามานั่งในรถได้ทัน แล้วกดล็อคประตู เรืองโรจน์ลุกขึ้นวิ่งตาม และตะโกนตามหลังไป
“เอาเงินมาให้กูอีก เอามาอีก”
อังคณาติดเครื่องแล้วถอยรถออกไปอย่างเร็ว

เรืองโรจน์แค้นตะโกนตามขู่ออกไป “มึงเข้าคุกแน่อีอังคณา ได้ไปตายในคุกแน่ๆ กูจะบอกทุกคน กูจะบอกลุกมึงว่ามึงฆ่าผัว มึงฆ่าผัว”
อังคณาหยุดรถเอี๊ยด เมื่อได้ยินสิ่งที่เรืองโรจน์พูด ฉับพลันนั้นเอง อังคณาตระหนักว่าตัวเองไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว อังคณาเหยียบคันเร่งจนมิด รถของเธอพุ่งอย่างเร็วตรงไปหาเรืองโรจน์ แล้วพุ่งเข้าชนเรืองโรจน์ทันที เรืองโรจน์ไม่ทันตั้งตัว จะกระโดดหนีก็ไม่ทันเสียแล้ว เขาถูกรถชนอย่างแรงจนกระเด็นไป รถอังคณาวิ่งเลยร่างของเรืองโรจน์ไป แล้วอังคณาก็จอดรถ อังคณาลงมาจากรถ
อังคณาเดินมาหยุดดูเรืองโรจน์ใกล้ๆ เห็นเรืองโรจน์นอนแน่นิ่ง เลือดไหลโทรมกาย
“เรืองโรจน์ เรืองโรจน์” อังคณาร้องเรียก
ไม่มีเสียงตอบจากเรืองโรจน์ อังคณาค่อยๆ ก้มลงไปมองใกล้ๆ แต่แล้วทันใดนั้นเรืองโรจน์ก็ลืมตาโพลงขึ้นพยายามพูด “มึง มึงฆ่ากู” พร้อมกับยื่นมือออกมาจะจับตัวอังคณา
อังคณาตกใจกระโดดถอยออกมา เรืองโรจน์พยายามกระเสือกกระสนดิ้นรนจะมาจับตัวอังคณาให้ได้
“มึง มึงไม่รอดหรอก”
แล้วเรืองโรจน์ก็หมดแรง มือตก สงบแน่นิ่งไป
อังคณารออยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าเรืองโรจน์ไม่ขยับแน่ จึงเดินเข้าไปใกล้ๆ เห็นเรืองโรจน์นอนลืมตาโพลง มั่นใจว่าคราวนี้เขาตายแน่ อังคณารู้สึกกลัว หันกลับจะไปขึ้นรถ แล้วอังคณาก็ต้องชะงัก เมื่อมองไปที่ถนน เห็นแผ่นป้ายทะเบียนรถของเธอตกอยู่ที่พื้น มีเลือดของเรืองโรจน์เลอะเทอะไปหมด
อังคณาหยิบป้ายทะเบียนรถเปื้อนเลือดนั้นขึ้นมาดู มือไม้สั่น กลัวจนทำอะไรไม่ถูก

ในเวลาค่อนรุ่ง รถของอังคณาแล่นเข้ามาที่หน้าบ้านเลิศชัยวัฒน์ แล้วตรงเข้าไปจอดที่โรงรถเลย พอจอดรถเสร็จแล้วก็ลงมาจากรถปิดประตู อังคณาเดินออกมา
ชนกนันท์ที่แอบอยู่ในความมืด เดินอ้อมออกมาจากอีกทาง แล้วเดินตรงไปที่รถของอังคณา ชนกนันท์เดินมาจนใกล้จะถึง มองจากหน้ารถจนถึงท้ายรถในความมืด ชนกนันท์มองเห็นไม่ถนัดนัก จู่ๆเสียงอังคณาดังขึ้นข้างหลัง
“ทำอะไร”
ชนกนันท์สะดุ้งเฮือก “แม่”
“มาทำอะไรตรงนี้”
“เอ่อ นก มา...นกได้ยินเสียงรถ เลยมาดูว่าใคร นี่ตั้งตีสามแล้ว แม่ไปไหนมาคะ”
“ไปธุระข้างนอก แล้วรถมันเสีย...เราเองก็เถอะ ดึกป่านนี้แล้วทำไมไม่หลับไม่นอน...ไป เข้าบ้านไป”
อังคณายืนมอง ชนกนันท์ก้มหน้าเดินกลับเข้าบ้านไป

อังคณามองตามจนชนกนันท์ลับตาไปแล้วจึงเดินไปที่รถ เปิดประตูด้านคนขับออก หยิบกระเป๋าเงินที่เตรียมเอาไปให้เรืองโรจน์ออกมาพร้อมกับปิดประตูรถ แล้วเดินกลับเข้าไปในบ้าน
พรรณีมาตลาดแต่เช้า และกำลังเลือกผักจากแผงเจ้าประจำ สักครู่หนึ่งพิณทองวิ่งหน้าตาตื่นมาหา พร้อมกับของในมือ และหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง

“แม่จ๋าแม่ ดูข่าวนี่ซีจ๊ะ”
“อะไรลูก”
พรรณีดูข่าวหนังสือพิมพ์ เห็นข่าวพาดหัว “กรรมตามทัน คนร้ายหนีตำรวจ เจอรถชนดับคาที่” ที่ข้างๆ ข้อความมีรูปของเรืองโรจน์ประกอบข่าว พรรณีอึ้งไป

เพชรแท้อ่านข่าวนั้นจบก็พับหนังสือพิมพ์ลง หน้าตาครุ่นคิด
“หนีตำรวจไปโดนรถชนตาย...”
“นั่นซีลูก คนเรา นึกไม่ถึงเลยนะ บทจะตายก็ตายกันง่ายๆ พระท่านถึงว่าชีวิตมันอนิจจัง”
“เพชรว่า...มันง่ายไปหรือเปล่าแม่” เพชรแท้ติดใจ
“พี่เพชรหมายความว่ายังไง”
“คิดดูซี ไอ้คนที่ตาย เป็นคนเดียวที่มีหลักฐานยืนยันได้ว่า อังคณาเป็นตัวการสั่งฆ่าพ่อ...พอเราได้เบาะแส ตำรวจกำลังจะจับมันได้ มันก็โดนรถชนตายไปเฉย ๆ...มันไม่ง่าย ไม่บังเอิญไปหน่อยเหรอ”
พรรณีกับพิณทองคิดตาม ชักสงสัยเหมือนกัน

ที่สถาบันนิติเวช ชนะศึกกับชนกนันท์ดูศพเรืองโรจน์เสร็จแล้ว กำลังคุยกับเจ้าหน้าที่อยู่ เป็นชายอารมณ์ดี ทำงานกับศพจนชิน ท่าทางสบายๆ ช่างพูดช่างคุย
“เขาเสียชีวิตเพราะโดนรถชนจริงๆ เหรอครับ” ชนะศึกถามอย่างสงสัย
“ครับ จากที่เราชันสูตร ผู้ตายมีกระดูกหักหลายแห่ง อวัยวะภายในบาดเจ็บรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต แต่สภาพร่างกายไม่มีร่องรอยของการต่อสู้หรือถูกทำร้ายอื่นใดเลย...เขาโดนรถชนตายแน่ๆ”
“แล้ว...ตำรวจจับคนที่ชนได้หรือยังครับ”
“ผมว่าคงเป็นไอ้พวกเด็กเที่ยวที่เมาแล้วขับรถซิ่งตอนดึก ๆ น่ะแหละ ดูจากที่พื้นถนนไม่มีรอยเบรกเลย มันคงเบรกไม่ทันหรือเผลอ ๆ ไม่ได้เบรกเลยด้วยซ้ำ” เจ้าหน้าที่ส่ายหัว “ไอ้พวกนี้ มันขับเหมือนจะแข่งกันไปนรก ดีนะว่าไม่ได้ชนคนดี ๆ เขาตายไป”
ชนกนันท์กับชนะศึกพยักหน้า ทั้งสองดูเหมือนโล่งใจอย่างประหลาด
เจ้าหน้าที่ส่งแฟ้มภาพถ่ายศพเรืองโรจน์ให้ชนะศึกดู และอดพูดต่อไม่ได้
“ขนาดเป็นคนร้าย ผมเห็นศพแล้วยังอดสงสัยไม่ได้ คุณเอ๊ย มันชนจนป้ายทะเบียนหลุดกระเด็นเลย ขางี้หักเป็นสองท่อน คิดดูแล้วกัน...ไม่ตายยังไงไหว”
ชนกนันท์สะดุ้งเฮือก
“อะไรนะคะ...ตะกี๊คุณว่ารถที่ชนป้ายทะเบียนหลุดเหรอคะ”
“ครับ ตำรวจเขาเจอหมุดที่มีเศษขอบป้ายทะเบียนหักตกอยู่ตรงที่เกิดเหตุ แต่ยังจับตัวไม่ได้หรอกนะครับ เพราะป้ายทะเบียนไม่รู้หายไปไหน”
ชนะศึกเห็นชนกนันท์อึ้งก็สงสัย “มีอะไรเหรอ นก”
“เปล่าค่ะ...นกขอตัวก่อนนะคะ พี่ชนะ เผอิญนึกได้ว่ามีธุระด่วน ต้องรีบไป”
พูดจบชนกนันท์ก็รีบเดินออกไปทันที ชนะศึกแปลกใจ มองตาม ไม่เข้าใจท่าทีของน้องสาว
เวลาต่อมาที่บ้านเลิศชัยวัฒน์ ขณะที่ศักดากำลังล้างรถอยู่ ชนกนันท์รีบร้อนเข้ามาถึง สายตามองไปที่กันชนรถของอังคณา เห็นว่าป้ายทะเบียนหน้ารถของอังคณาหลุดหายไป ศักดาเงยหน้ามาเห็นพอดี ชนกนันท์เดินเข้าไปมองตรงป้ายทะเบียนที่หลุด แล้วมองไปรอบๆ รถ
“จะใช้คันนี้หรือครับ เดี๋ยวผมรีบล้างให้”
ชนกนันท์ไม่ตอบ เดินไปจะเปิดประตู แต่ล็อก
“ผมไม่ได้ทำความสะอาดในรถครับ คุณผู้หญิงสั่งให้ล้างแต่ข้างนอก”
“เอากุญแจสำรองมาให้ฉัน” ชนกนันท์สั่ง
ศักดางง ๆ แต่ก็เดินไปหยิบกุญแจมาส่งให้ ชนกนันท์ดุศักดา
“ออกไปได้แล้ว”
ศักดางง แต่ก็ออกไป
พอศักดาไปแล้ว ชนกนันท์ไขกุญแจเปิดรถ เริ่มค้นหาป้ายทะเบียนที่หายไป เริ่มจากท้ายรถ ไม่พบอะไร เปิดประตูทั้งสี่บาน หาในรถ ในลิ้นชัก ใต้เบาะ จากด้านหน้าไปด้านหลัง ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ ชนกนันท์คิดไปคิดมา ชักไม่แน่ใจ
“ไม่มี”
ชนกนันท์จะปิดประตูบานหลัง แต่เมื่อสายตามองต่ำลงไป ก็คิดบางอย่างขึ้นได้ จึงก้มลง กระชากพรมปูพื้นรองขึ้นมา ทีละอันทีละอันจากข้างหลัง มาจนถึงอันสุดท้าย ที่พรมปูรองพื้นตรงที่นั่งคนขับ มือของชนกนันท์ไปโดนตรงจุดหนึ่ง ซึ่งนูนๆ เหมือนมีของอะไรบางอย่างซุกอยู่ใต้นั้น ชนกนันท์กำลังจะเอื้อมมือไปเปิดพรม ทันใดก็ต้องสะดุ้ง เพราะอังคณามายืนอยู่ฝั่งตรงข้าม ชนกนันท์รีบปล่อยมือทันที
“ยัยนก ทำอะไร”
“เอ่อ หาของค่ะ”
“หาอะไร ทำไมถึงมาหาในรถแม่”
“นก...ตุ้มหูของนกน่ะค่ะ มันหล่นหายไป นกหาในรถของนกแล้วไม่เจอ เลยลองมาหาดูที่นี่”
อังคณาไม่เชื่อ “จะโกหกไปถึงไหน แกไม่เคยใช้รถคันเดียวกับแม่ ของจะมาตกในรถแม่ได้ยังไง...แกจะหาอะไร ยัยนก จะหาให้มันได้อะไรขึ้นมา”
ชนกนันท์อึกอัก “เอ่อ คือ นก...นก”
“เมื่อไหร่จะเลิกบ้า ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ แบบนี้เสียที ที่พูดกันวันนั้นไม่เข้าใจหรือยังไง” ชนกนันท์ก้มหน้างุด “ไป กลับขึ้นบ้านไปเดี๋ยวนี้”
ชนกนันท์รีบกลับเข้าไปในบ้าน
อังคณาเดินมาปิดประตูรถทุกบาน กลับไปตรงจุดที่พรมด้านคนขับเปิดออก แล้วหยิบถุงใส่ป้ายทะเบียนออกมา มองซ้ายมองขวา แล้วเดินเข้าบ้านไป

ชนกนันท์เปิดประตูเข้ามาในห้องนอน สีหน้าท่าทางตกใจมาก คาดไม่ถึงว่าจะเป็นอย่างที่ตัวเองคิด
ส่วนทางด้านเพชรแท้กำลังพยายามอธิบายกับสารวัตรเจ้าของคดีฆาตกรรมธานินทร์

“มันต้องมีซีครับ ตอนก่อนตาย ไอ้เรืองโรจน์มันบอกกับผมเอง ว่ามันมีซิมการ์ดที่อัดเสียงคุณอังคณาไว้”
“ตำรวจเขาบุกเข้าไปในห้องที่โรงแรมที่คุณบอกแล้ว ข้าวของอะไรก็ขนมาหมด มันไม่มีซิมการ์ดอะไรที่คุณว่า”
“หาดีๆ อีกครั้งได้ไหมครับ มันอาจจะแอบซุกซ่อนเอาไว้ที่ไหน หลักฐานอันนี้สำคัญมากนะครับ มันเป็นหลักฐานที่เราจะเอาตัวคุณอังคณาเข้าคุกได้”
“คุณเคยเห็นซิมอันที่ว่านี้ไหม” เพชรแท้ส่ายหน้า “แล้วรู้ได้ยังไงว่ามันมีจริง”
“ก็...ถ้าไม่มี อังคณาจะฆ่าเรืองโรจน์ปิดปากทำไม”
“คุณ...ผมว่าคุณไปกันใหญ่แล้ว” สารวัตรตบไหล่เพชรแท้ “ผมรู้นะว่าคุณกับคุณอังคณาไม่ถูกกัน แต่ผมไม่อยากให้คุณไปกล่าวหาเขาซะทุกเรื่อง”
สารวัตรถอนใจ เดินไปเอาแฟ้มอันหนึ่งมาเปิด โยนลงตรงหน้าเพชรแท้ ในแฟ้มเป็นรูปรถคันหนึ่ง ด้านหน้าชนยับยู่ยี่ และไม่มีป้ายทะเบียนด้านหน้าด้วย
“อะไรครับ”
“วันที่นายเรืองโรจน์โดนรถชนตาย ห่างออกไปอีกไม่กี่ร้อยเมตร มีคนเมาขับรถชนเสาทางด่วน ตายคาที่ ดูจากสภาพรถและเวลาเกิดเหตุ ก็น่าจะเป็นรถคันนี้แหละ ที่ชนนายเรืองโรจน์จนเสียชีวิต...อย่าคิดอะไรให้มันซับซ้อนเกินไปหน่อยเลยคุณ”
เพชรแท้ได้ฟังตำรวจสรุปคดี ได้แต่อึ้ง นิ่งงันไป

วันต่อมาภายในห้องประชุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายตำรวจระดับนายพลนั่งเป็นประธาน พร้อมกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่อีก 2-3 นาย อังคณา ชนะศึก และชนกนันท์ นั่งอยู่ด้วย มีนักข่าว ช่างภาพ และช่างกล้องอีกหลายคนอยู่ในห้องแถลงปิดคดี

อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 13 วันที่ 21 พ.ย. 55

เค้าโครงเรื่อง : ทีมเอ็กแซ็กท์
บทโทรทัศน์ : กษิดินทร์ แสงวงษ์ , ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์
กำกับการแสดง : นิพนธ์ ผิวเณร
อำนวยการผลิต : นิพนธ์ ผิวเณร, ถกลเกียรติ วีรวรรณ
แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ออกอากาศ : จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 5
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่มตอนแรกอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manager.co.th