อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 7/2 วันที่ 10 พ.ย. 55

อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 7/2 วันที่ 10 พ.ย. 55

ตำรวจอีกคนหนึ่งดักรออยู่ข้างหน้าเพชร
“หยุดนะ” พร้อมกับตวาดเสียงดัง ขู่
เพชรแท้ตกใจ หันตัวมาทางเดิม วิ่งกลับไป ถูกตำรวจอีกคนหนึ่งที่วิ่งตาม และยกปืนขึ้นขู่
เพชรแท้หยุดกึก ไม่มีทางหนีได้แล้ว และถูกจับกุมได้ในที่สุด ตำรวจจับแขนเพชรแท้ไพล่หลัง แล้วใส่กุญแจมือ
“หยุด ควบคุมตัวไว้ นำตัวไป”
พรรณีเห็น วิ่งตามมาตื่นตกใจ
“เพชร”

ตำรวจพาตัวเพชรแท้เดินมาทางหน้าบ้านเช่า
“เพชรๆ” พรรณีจะวิ่งเข้าไปหาลูก ถูกตำรวจกันไว้ “อย่าทำกับลูกฉันแบบนี้ ลูกฉันไม่ใช่โจรผู้ร้าย เขาเป็นคนดี” พรรณีเสียใจร้องไห้ออกมา “ปล่อยเขาเถอะ ขอร้องนะ ปล่อยเขา”



ตำรวจอีกคนเข้ามากันตัวพรรณีออก
“เราต้องนำตัวนายเพชรแท้ไปที่ สน. นะครับ ยังไงค่อยตามไปที่นั่นก็แล้วกัน”
พรรณีร้องไห้คร่ำครวญ พยายามจะตามเพชรแท้ไป
“อย่าเอาลูกฉันไป ปล่อยๆ”
ตำรวจพยายามกันตัวเพชรแท้ไว้ จนพรรณีล้มลง ธานินทร์เดินเข้าไปหาพรรณี อยากจะปลอบโยน
“พรรณี”
พรรณีหันขวับมาหาตบหน้าธานินทร์อย่างแรงทันที “คุณทำอย่างงี้กับลูกฉันได้ยังไง ฉันไม่น่าหลงเชื่อคุณเลย”
พรรณียันตัวลุกขึ้น จะตามเพชรไป พิณทองกับผึ้งเข้ามาพอดี
พิณทองตกใจ “แม่ เกิดอะไรขึ้นจ๊ะ”
“ก็เขาไง” ชี้ไปที่ธานินทร์อย่างเกรี้ยวกราด “เขาพาตำรวจมาจับเพชร”
พรรณีใจจะขาดรอนๆ วิ่งตามตำรวจไป สวนทางกับศักดา
“เพชรๆ”
พิณทองกับผึ้งวิ่งตามติด
“แม่จ๋า”
ศักดาวิ่งเข้ามาหาธานินทร์ จังหวะนั้นธานินทร์เริ่มแน่นหน้าอกขึ้นมาอีก
ศักดาตกใจ “ท่าน ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะครับท่าน
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ช่วยพาไปโรงพยาบาลที”
จู่ๆ ธานินทร์ก็รู้สึกเวียนหัว หน้ามืดขึ้นมา ศักดาตกใจ พยายามตั้งสติรีบเข้าไปประคอง
“เอาอีกแล้วเหรอครับ ทำใจดี ๆ ไว้นะครับ ผมจะรีบพาท่านไปโรงพยาบาล”

ศักดาประคองธานินทร์กลับไปที่รถซึ่งจอดอยู่ในหน้าวัด

ตำรวจพาเพชรแท้มาขึ้นรถกระบะที่หน้าวัด
“ปล่อยซี ปล่อยผม ผมไม่ได้ทำผิด”
“ไปๆ ขึ้นไป” ตำรวจผลัก ดัน เพชรแท้ขึ้นรถไป
พรรณี พิณทอง และผึ้งวิ่งตามมา
“เพชร”
“พี่เพชร”
ทั้งสามคนวิ่งเข้าไปที่ท้ายรถกระบะคันนั้น
“คุณค่อยไปที่ สน. ทีหลังนะครับ”
ตำรวจบอก ก่อนที่จะออกรถไป ทั้งสามคนวิ่งตาม เพชรแท้ตะโกนก้อง
“ดูแลแม่ด้วยนะพิณ ดูแลแม่ด้วย
ตำรวจขับรถเร็วขึ้น จนสามคนวิ่งตามไม่ทัน รถตำรวจแล่นห่างออกไป ทั้งสามคนวิ่งตามไป ผ่านรถของเรืองโรจน์ ซึ่งมองดูเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในรถ หน้าตายิ้มร้ายอย่างสะใจ

ไม่นานต่อมาพรรณี พิณทอง และผึ้งพากันมานั่งอยู่ที่สถานีตำรวจ
“เขาหลอกแม่ ว่าจะมาช่วยแม่ ที่แท้ก็เอาตำรวจมาจับ” พรรณีแค้นใจธานินทร์ไม่หาย
“ท่านจะทำได้เหรอแม่ ท่านจะทำทำไม” พิณทองไม่อยากเชื่อ
“เพชรมันเห็นมากับตา มันเห็นนายชนะศึกลูกชายเขาคุยอยู่กับตำรวจเมื่อตอนกลางวัน”
“แต่...พิณเพิ่งขอให้เขาช่วยพี่เพชร” พิณทองหลุดปาก
พรรณีชะงัก หันมามองพิณทองเขม็ง ผึ้งไม่รู้จะพูดยังไง
“อะไรนะพิณ พิณไปหาเขาตั้งแต่เมื่อไหร่”
พิณทองบอกเสียงอ่อย “เมื่อวานค่ะ พิณเห็นแม่กับพี่เพชรร้องไห้ แล้วพิณก็เลย...เลย”
พรรณีตำหนิเสียงเขียว “พิณเลยบอกเขาใช่ไหมว่าเราอยู่ที่นี่”
“พิณไม่ได้ตั้งใจ พิณคิดว่าพิณไว้ใจเขาได้”
พรรณีโกรธมาก “แล้วเป็นไง ดูที่มันทำซี มันเอาเพชรไปเข้าคุกแล้ว พอใจหรือยังล่ะ พอใจไหม” พรรณีลืมตัวเขย่าตัวพิณด้วยความโมโห
พิณทองร้องไห้ “พิณขอโทษค่ะ แม่ พิณมันโง่ พิณโง่จริง ๆ พิณไม่น่าเชื่อเขาเลย พิณขอโทษจริง ๆ แม่
พิณทองกราบพรรณีอย่างสำนึกผิด แล้วร้องไห้สะอึกสะอื้น ผึ้งเข้ามากอดพิณทองกับพรรณีอีกคน ร้องไห้ไปด้วยกัน

คืนนั้น พอรู้เรื่องอังคณาหัวเราะร่าอย่างมีความสุข
“ลูกมันเข้าตารางไปแล้วเหรอ...เก่งมากเรืองโรจน์ เธอทำได้สำเร็จจริงๆ” หัวเราะสะใจ “ไม่เสียแรงที่ฉันไว้ใจ”
“ผมยินดีรับใช้คุณอังคณาเต็มความสามารถอยู่แล้วครับ”
“ดี...ถ้าไอ้ลูกชายเข้าคุกไปได้ นังแม่มันคงหัวใจสลาย”
อังคณายิ้มร้ายสะใจอย่างที่สุด
เรืองโรจน์ทวง “คุณอังคณาครับ แล้วเรื่องของผมที่เราตกลงกันไว้ล่ะว่าไง”
“ใจเย็นสิเรืองโรจน์ ไว้ให้เรื่องไอ้เพชรแท้มันผ่านไปก่อน แล้วค่อยว่ากัน”
“ก็ได้ครับ ผมจะรอ”
นกวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาอังคณา
“คุณแม่คะ...ศักดาโทรมาบอกว่าคุณพ่อเข้าโรงพยาบาล รีบไปดูคุณพ่อกันเถอะค่ะ”
อังคณาฟังแล้วหยุดนิ่งไปนิดหนึ่ง แต่แววตาดูสะใจอยู่ลึกๆ รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องของเพชรแท้ทำให้ธานินทร์ถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาล

เรืองโรจน์มองหน้าอังคณาแล้วยิ้มร้ายตามกัน
ที่โรงพยาบาล ช่วงตอนกลางคืน ธานินทร์นอนอยู่บนเตียงในห้องพักฟื้นผู้ป่วย ข้างเตียงมีเครื่องตรวจวัดการเต้นของหัวใจ และสายน้ำเกลือระโยงระยางอยู่ ชนะศึกยืนมองออกไปนอกห้องนิ่งๆ กำลังครุ่นคิดหนักอยู่ในใจ ครู่หนึ่งยินเสียงธานินทร์ไอกระแอม ชนะศึกจึงหันมาดู แล้วรีบไปดูพ่อ

“คุณพ่อครับ เป็นไงบ้างครับ”
ธานินทร์ถามอย่างร้อนใจ “มันเกิดอะไรขึ้นลูก ลูกทำอะไรลงไป พ่อให้ลูกไปขอความช่วยเหลือเขาไม่ใช่เหรอ”
ชนะศึกงงอยู่ “ผมก็ทำอย่างนั้น”
“แล้วทำไมตำรวจถึงไปจับเพชร” ธานินทร์ถามอย่างร้อนใจ
ชนะศึกจับตัวธานินทร์ไว้ “พ่อสงบสติอารมณ์ก่อนเถอะครับ ทำแบบนี้ไม่เป็นผลดีต่อตัวพ่อเองนะครับ”
ธานินทร์ไม่สนใจ “ตำรวจคงตามพ่อไป พ่อเป็นตัวการอีกแล้วหรือนี่” ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ “ชนะ เราต้องช่วยเขานะลูก ช่วยเพชรออกมา รีบขอประกันตัวเขา”
ชนะศึกอึดอัด ท่าทีลำบากใจ “ผมดูรูปคดีแล้วคงจะยากครับ”
ธานินทร์ตวาดเสียงสั่น “ยากก็ต้องทำ ชนะ ลูกต้องทำให้ได้ พ่อขอร้อง ได้ยินไหม”
ธานินทร์โถมใส่ชนะศึกทั้งตัว แทบจะตกเตียง
ชนะศึกตกใจ รีบปลอบ “พ่อครับ ใจเย็นๆ ครับ”
ชนกนันท์เปิดประตูเข้ามาในห้องพอดี รีบเข้ามาหาถามอาการธานินทร์
“คุณพ่อเป็นยังไงมั่งคะ”
ธานินทร์อ่อนแรง กลั้นใจพูดกับชนะศึกเฮือกสุดท้ายน้ำเสียงเครียด
“ชนะ พ่อไม่เคยขออะไรลูก แต่คราวนี้พ่อขอ ทำทุกอย่างเท่าที่ลูกจะทำได้ ลูกไม่ต้องห่วงพ่อ ไปเดี๋ยวนี้เลย ไปช่วยเพชรออกมาให้ได้ ลูกต้องทำให้ได้ เข้าใจไหม ชนะศึก”
อังคณาที่ตามชนกนันท์เข้ามาได้ยินที่ธานินทร์พูดกับชนะศึกเมื่อครู่พอดี
ธานินทร์เครียดจนสลบไปอีก
ชนะศึกตกใจ “คุณพ่อครับ คุณพ่อ”
ชนกนันท์รีบเรียกหาพยาบาลให้มาช่วยเป็นการด่วน พยาบาลวิ่งกันวุ่น ชนะศึกกับชนกนันท์ช่วยกันดูแลธานินทร์
อังคณายืนนิ่งมองธานินทร์ที่เตียงแล้วเดินออกไปจากห้องพักผู้ป่วย

อังคณาเดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วย แล้วหยุดยืนกำมือแน่นด้วยความเจ็บช้ำใจ และกลายเป็นเคืองแค้น
“คุณธานินทร์...คุณเจ็บขนาดนี้ คุณยังคิดเป็นห่วงพวกมันอีกเหรอ”

รุ่งเช้า ภายในสถานีตำรวจแห่งนั้น พิณทอง พรรณี และผึ้ง นั่งระทดระทวยอยู่ที่เก้าอี้นั่งรอ เพราะรอมาตั้งแต่เมื่อคืน ระหว่างนี้เพชรแท้ถูกสอบเครียดอยู่ในห้องสอบสวน
“ทำไมนานจังเลย นี่มันเช้าแล้วนะ” พรรณีปรารภ
“เคยได้ยินว่าบางทีเขาสอบสวนกันเป็นวันก็มีนะน้า” ผึ้งว่า
“แล้วจะสอบไปถึงไหน ถ้ามันไม่ยอมรับว่าขายยา เขาจะซ้อมมันให้รับไหม” พรรณีใจหาย
“ผึ้งก็ไม่รู้เหมือนกัน”
พิณทองรู้สึกแย่ไปด้วย “เดี๋ยวพิณไปถามเขาดูนะแม่”
พิณทองลุกขึ้น จะเดินไปถามจ่าเวร
ตรงทางเดินในโรงพัก เพชรแท้ถูกคุมตัวออกมาจากห้องสอบสวน เพชรแท้ยังถูกใส่กุญแจมืออยู่ ตำรวจจะพาไปเข้าห้องขัง
“แม่ พี่เพชรออกมาแล้ว” พิณทองบอก
พรรณีกับผึ้งรีบลุกมาหา ทุกคนเดินตามเพชรแท้ไป พรรณีพูดถามไปด้วยอย่างห่วงใย
“เพชรเป็นไงบ้างลูก”
พรรณีพยายามจะเข้ากอดเพชรแท้ แต่ถูกตำรวจกันไว้
“ไม่เป็นไรแม่ เขาอยากรู้ว่าเพชรส่งยาให้ใคร เพชรบอกเขาไปแล้ว เพชรไม่ได้ทำ”
“อดทนนะลูก พระต้องคุ้มครองคนบริสุทธิ์” พรรณีบอกกับตำรวจเสียงสั่นอย่างน่าเวทนา “อย่าทำอะไรลูกฉันนะคะ เมตตาด้วยเถอะ เขาเป็นคนดี เขาเป็นลูกฉัน ฉันเลี้ยงเขามา ฉันรู้”
พรรณีพูดไปร้องไห้ไป เพชรแท้สงสารแม่นัก น้ำตาลูกผู้ชายไหลริน
พิณทองมองภาพแม่กับพี่ชาย พูดอะไรไม่ออก ร้องไห้ไปด้วย
ตำรวจคุมตัวเพชรแท้ไปเข้าห้องขัง
พรรณีถามตำรวจที่อยู่หน้าห้องขัง “คุณคะ ฉันอยากจะประกันตัวลูกชาย ต้องทำยังไงคะ”

“ลองไปพูดกับข้างในโน่นดูแล้วกัน” ตำรวจบอก
เวลาต่อมาตำรวจร้อยเวร ตอบข้อข้องใจของพรรณี มีพิณทองนั่งฟังอยู่ด้วย

“คดียาเสพติดใหญ่อย่างนี้ คงไม่ได้ประกันตัวหรอกครับ ต้องกักตัวไว้จนกว่าศาลจะตัดสินโน่นแหละ”
พรรณีตะลึง ถามรัวเร็ว “แล้วยังไงคะ ลูกฉันต้องนอนอยู่ที่นี่นานแค่ไหน”
“ไม่เกินสองวันครับ แล้วก็จะส่งตัวเข้าเรือนจำ” ร้อยเวร
“เรือนจำ...ลูกฉันกลายเป็นนักโทษไปแล้วเหรอคะ” พรรณีตื่นตะลึง
“ตอนนี้ศาลยังไม่ได้ตัดสิน ก็แค่ฝากขังไว้” ร้อยเวรบอก
“นานแค่ไหนคะ” พรรณีถาม
“ก็ถ้านายเพชรแท้ผิดจริง คดีมียาเสพติดในครอบครองเป็นร้อยๆ เม็ดแบบนี้ ถ้าไม่ตลอดชีวิตก็ประหารล่ะครับ”
พรรณีตะลึง แล้วโผเข้ากอดพิณทอง ร้องไห้สติแตก ใจจะขาดรอนๆ
“เพชร เพชรลูกแม่”

ขณะที่พรรณี พิณทอง และผึ้งเดินคอตกลงบันไดออกมาจากตึกสน.แห่งนั้น ชนะศึกเพิ่งมาถึงจึงเดินเข้ามาหา
“พิณทอง”
ทั้งสามคนหันหลังกลับไปดู
ชนะศึกไหว้พรรณี “คุณเพชรแท้เป็นไงบ้างครับ”
“แก”
พรรณีบันดาลโทสะ โถมเข้าทุบตีชนะศึกอย่างโกรธแค้น
“ฉันไปทำอะไรให้แกนักหนา ทำไม....ทำไมถึงต้องทำกันขนาดนี้”
ชนะศึกงง “อะไรกันครับ คุณน้า”
“ไอ้คนใจร้าย แกมาดูลูกฉันทำไม โน่น!..มันโดนเขาจับเข้าคุกไปแล้ว เพราะฝีมือพวกแก
พรรณีด่าทอต่อว่าพร้อมกับเข้าทุบตีชนะศึกพัลวัน ชนะศึกพยายามกันไว้ พรรณีอ่อนแรง เพราะอดนอน และร้องไห้ ซวนเซจะล้มลง พิณทองรีบไปประคอง
“ปล่อยเขาไปเถอะแม่” พิณทองบอกพรรณีท่าทีเฉยชา
“คุณน้าครับ ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ ผมกับคุณพ่อตั้งใจจะช่วยด้วยซ้ำ”
พรรณีพูดใส่หน้า ไม่เชื่อเลย “ช่วยเรอะ แกช่วยจนลูกฉันต้องกลายเป็นนักโทษ นอนรอวันตายอยู่ในคุก แกพอใจไหม แกสะใจไหม”
ชนะศึกอึ้งไป “ผมตั้งใจช่วยจริงๆ ครับน้า ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนี้”
“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี แกมันก็หน้าเนื้อใจเสือเหมือนแม่แก” พรรณีพาลด่าอย่างเหลืออด
“คุณน้าครับ” ชนะศึกพยายามจะอธิบาย
พรรณีไม่ฟัง ชี้หน้า มือไม้สั่น “บอกแม่แก ถ้าอยากจะทำอะไร มาทำฉันนี่ ฉันยอมทุกอย่าง อย่าทำลูกฉัน” พรรณีคับแค้นใจร้องกรี๊ดออกมา “อย่ามาทำลูกฉัน”
พรรณีทั้งโกรธ ทั้งเหนื่อย และเสียใจประดังประเด ถึงขั้นเป็นลมหมดสติไป
พิณทองกับผึ้งตกใจมาก ร้องออกมาพร้อมๆ กัน
“แม่!” / “น้าณี”
ชนะศึกจะเข้ามาช่วย พิณทองปัดมือชายหนุ่มออกไป มองด้วยสายตาเจ็บปวด และเกลียดชัง
“อย่ามายุ่ง”
ชนะศึกใจหายวาบ “พิณทอง ผม...”
“พอแล้วค่ะ ไม่ต้องพูด เพราะพิณหลงเชื่อคำพูดของคุณ ครอบครัวพิณถึงได้เป็นแบบนี้”
“คุณเข้าใจผิดนะพิณทอง”
“ใช่ค่ะ พิณเข้าใจผิด พิณผิดที่คิดว่าคุณจะทำสิ่งที่คุณสัญญาเอาไว้ พิณผิดเองที่นึกว่าจะมีใครเห็นแก่ความถูกต้องมากกว่าสายเลือดของตัวเอง ยังไงเลือดก็ต้องข้นกว่าน้ำค่ะคุณชนะศึก”
ชนะศึกพยายามอธิบาย “นี่ ฟังผมก่อน”
“ไม่! พิณไม่ฟัง พิณโง่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว พิณไม่อยากฟังคุณพูด พิณไม่อยากเห็นหน้าคุณ พิณเกลียดคุณ ได้ยินไหมคะ คุณชนะศึก พิณเกลียดคุณ”

พิณทองกระแทกเสียงใส่ แล้วประคองพรรณีเข้าบ้านไป ชนะศึกมองตามตาละห้อย รู้สึกเสียใจ ที่เรื่องลุกลามไปกันใหญ่
คืนนั้นชนะศึกเดินดิ่งเข้าประตูบ้านตรงมายังโถงใหญ่ ด้วยท่าทางโมโหจัด ที่โดนพิณทองด่าตอนไปหาที่สน.

“คุณแม่อยู่ไหน”
“อยู่ในห้องนั่งเล่นคะ” คนรับใช้บอก
ชนะศึกรีบเดินดิ่งเข้าไปในห้องนั่งเล่น

อังคณากับชนกนันท์นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น อังคณาเห็นชนะศึกเดินหน้าตาบูดบึ้งเข้ามา
ชนะศึกเสียงเข้ม “ทำไมคุณแม่ต้องโกหกผมด้วย”
อังคณาทำไก๋ “แกพูดเรื่องอะไรของแกตาชนะ ฉันโกหกอะไรแก”
“เมื่อกี๊ผมเพิ่งทะเลาะกับพิณทองมา เรื่องอะไรรู้ไหมครับ เพราะมีคนตามคุณพ่อไปที่บ้านเขา แล้วบอกให้ตำรวจไปจับพี่ชายเขาเข้าคุก ทั้งๆ ที่พี่ชายเขาไม่ได้ค้ายาเสพติด” ชนะศึกมองหน้าแม่ “แต่มีคนกลั่นแกล้งใส่ความเขา”
ชนกนันท์แหวใส่ “พี่ชนะก็เลยมากล่าวหาแม่เหรอคะ”
ชนะศึกหันมาทางชนกนันท์ “พี่ไม่ได้กล่าวหา” ก่อนจะหันมาถามอังคณา “คุณแม่ส่งคนไปรังควานเขา ลูกเขาต้องตกงาน ระหกระเหเร่ร่อนไม่มีบ้านอยู่ เท่านั้นยังไม่พอถึงขั้นจับเขาเข้าคุกเข้าตาราง แล้วยังโกหกผมกับยัยนกอีกว่าคุณแม่ไม่ได้ทำ แล้วต่อไปนี้ผมยังจะเชื่ออะไรคุณแม่ได้อีก”
อังคณาโกรธจนลืมตัว ยืนพรวดตบปากชนะศึกดังเพียะ
ชนะศึกชะงัก
อังคณาด่าไปร้องไห้ไป “หยุดก้าวร้าวแม่ซะที แกว่าแม่อย่างนั้นอย่างนี้ แต่แกเคยรู้บ้างไหมว่าแม่ต้องทำแบบนี้เพราะอะไร แม่ไม่อยากให้แกกับยัยนกเป็นลูกที่ไม่มีพ่อ แม่อยากรักษาครอบครัวของเราไว้ แม่ก็เป็นแค่ผู้หญิงคนนึงที่กลัวจะเสียสามีไป แม่ผิดเหรอชนะ”
อังคณาซบหน้ากับมือตัวเองร้องไห้สะอึกสะอื้น ชนกนันท์เข้าประคองแม่ มองชนะศึกอย่างโกรธๆ
ชนะศึกอึ้งไป ไม่รู้จะทำยังไง

เช้าวันต่อมาอังคณานั่งนิ่งเหม่อลอยอยู่ในห้องนอน ครุ่นคิดถึงเรื่องที่ชนะศึกต่อว่าเมื่อวานด้วยความเสียใจ ชนกนันท์เดินเข้ามาในห้องอดเป็นห่วงพ่อไม่ได้
“คุณแม่คะ เช้านี้เราไปเยี่ยมคุณพ่อกันเถอะค่ะ”
“ไปทำไม พ่อแกคร่ำครวญหาแต่อีบ้านนั้น ตัวเองไม่สบาย แล้วยังไปตามหาเมียเก่าจนล้มเจ็บ” บอกชนกนันท์ “ลูกอยากไปก็ไปเองเถอะ แม่ไม่ไปให้เจ็บใจหรอก”
ชนกนันท์อ่อนใจ “คุณแม่น่ะ อย่าพูดแบบนี้สิ ไปเยี่ยมคุณพ่อกันนะคะ”
อังคณาพูดเสียงเรียบๆ “คนเรา อย่างมากก็แค่ตาย ตายแล้วก็เอาไปเผา”
“นกนึกว่าคุณแม่จะอยากทำดีกับคุณพ่อบ้าง เผื่อว่าอะไรๆ มันจะ...”
อังคณาตัดบท “ไม่มีอะไรจะดีขึ้นมาได้หรอก สิ่งที่พ่อแกทำเอาไว้ ต่อให้ตายไปแล้วเกิดใหม่ แม่ก็ยังไม่ให้อภัย”
อังคณาเมินหน้า ยังเสียใจ และโกรธชนะศึกไม่หายที่ต่อว่าตัวเองแบบนั้น
ชนกนันท์หนักใจ ไม่อยากเห็นพ่อแม่เลิกกัน

สายวันเดียวกันพิณทองกำลังตากผ้าอยู่ที่ราวข้างบ้าน พิณทองก้มลงไปหยิบเสื้อตัวหนึ่งขึ้นมาจากตะกร้า แล้วหนีบที่ราวตากผ้า แต่พอพิณทองขยับตัวพ้นเสื้อ ก็เห็นชนะศึกยืนอยู่ตรงนั้น พิณทองชะงักไปชั่วขณะ
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“คุณกลับไปซะ พิณไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ”
พิณทองก้มลงไปยกตะกร้าผ้าขึ้น จะเดินหนีเข้าบ้าน ชนะศึกดึงตะกร้ารั้งไว้
“มีสิ ผมบอกแล้วไง คุณเข้าใจผิด ผมต้องการอธิบาย”
พิณทองบอกเสียงเรียบ ท่าทีหมางเมิน “ออกไป”
ชนะศึกชักหงุดหงิด เสียงเข้ม “นี่ พิณทอง คุณฟังผมก่อน”
“อย่ามาขึ้นเสียงนะ คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งอะไรพิณ พิณไม่ใช่ลูกน้องของคุณอีกแล้ว ออกไป”
พิณทองกระชากตะกร้าผ้ากลับมา แล้วเดินเข้าบ้านทันที

ชนะศึกเดินตามพิณทองเข้ามาในบ้าน

อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 7/2 วันที่ 10 พ.ย. 55

เค้าโครงเรื่อง : ทีมเอ็กแซ็กท์
บทโทรทัศน์ : กษิดินทร์ แสงวงษ์ , ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์
กำกับการแสดง : นิพนธ์ ผิวเณร
อำนวยการผลิต : นิพนธ์ ผิวเณร, ถกลเกียรติ วีรวรรณ
แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ออกอากาศ : จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 5
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่มตอนแรกอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manager.co.th