อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 9/2 วันที่ 15 พ.ย. 55

อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 9/2 วันที่ 15 พ.ย. 55

“พ่อเพิ่งบอกกับพี่” ชนะศึกหันมาทางอังคณา “เพชรแท้ เป็นลูกของพ่อกับคุณพรรณี”
อังคณาผงะไป “เป็นไปได้หรือนี่”
“พ่อบอกว่า เรื่องทั้งหมดนี่ เกิดขึ้นก่อนที่พ่อจะแต่งงานกับแม่ ท่านเชื่อว่าเพชรแท้เป็นลูกของท่าน และท่านต้องการพบเขา และผมก็จะทำทุกอย่างให้พ่อสมหวัง”
อังคณาช็อคสุดขีด พึมพำกับตัวเองอย่างคั่งแค้น

“นี่มันมีลูกด้วยกันเหรอนี่...มันมีลูกด้วยกัน ก่อนที่จะแต่งงานกับฉันงั้นเหรอ”
เย็นนั้นศักดานั่งอ่านหนังสือพิมพ์เฝ้าไข้ธานินทร์อยู่ในส่วนห้องรับแขก สักครู่หนึ่งชนะศึกเดินเข้ามาในสภาพมอมแมม ศักดาเห็นก็แปลกใจ อ้าปากจะถาม

“คุณชนะ...”
ชนะศึกตัดบท “คุณพ่อหลับอยู่ใช่ไหม”
“ครับ...แต่ว่าคุณชนะ”
ชนะศึกยกมือห้ามแล้วเดินเข้าห้องไป ศักดาเห็นท่าทีแล้วไม่กล้าถามอะไรอีก ชนะศึกเดินไปหยุดที่ริมเตียง เห็นธานินทร์หลับอยู่ ธานินทร์มีสภาพเป็นชายแก่ที่ดูอ่อนแอน่าสงสาร ชนะศึกเบือนหน้า น้ำตาคลอ
“ผมขอโทษครับพ่อ ผมทำให้เขามาหาพ่อไม่ได้ ผมขอโทษจริงๆ”
ชนะศึกนั่งลงข้างเตียง จับมือพ่อไว้ ซบหน้าร้องไห้กับมือธานินทร์
ธานินทร์ลืมตาขึ้นมาดวงตาเศร้าสลด ที่หางตามีน้ำตาซึมออกมา ก่อนจะปิดเปลือกตาคู่นั้น หลับลงอีกครั้ง ที่แท้ธานินทร์ไม่ได้หลับ และได้ยินทุกอย่าง



เพชรแท้ผ่าฟืนอย่างหนักหน่วง พยายามทำงานเพื่อให้ตัวเองเลิกคิดฟุ้งซ่าน แต่ไม่สำเร็จ เสียงของชนะศึกยังดังก้องอยู่ในหัว เพชรแท้โยนมืดที่ฝ่าฟืนทิ้ง นั่งลง ใคร่ครวญครุ่นคิดหนัก
“พ่อฉันเพ้อถึงแต่แก อาการพ่อฉันทรุดลงทุก ๆ วัน เขากำลังจะตาย แกได้ยินไหม! เขากำลังตรอมใจตาย เพราะ คิดถึงไอ้ลูกนอกคอกอย่างแก...ถ้าพ่อฉันตายไป ก็เป็นเพราะแกเป็นคนทำ!”
เพชรแท้ทอดถอนใจอย่างกลัดกลุ้ม

ธานินทร์นอนอยู่บนเตียง คิดตริตรอง ตัดสินใจดึงสายน้ำเกลือออก ค่อยๆ ลุกขึ้น ก่อนจะยกหมอนที่หนุนนอน หยิบห่อผ้า เอานาฬิกาพกออกมาดู ใช้มือลูบคลำนาฬิกาเรือนนั้นรำพึงเบา ๆ
“เวลาของฉันกำลังจะหมดลงแล้ว...ฉันรอไม่ได้แล้ว”
ในที่สุดธานินทร์ก็ปลดสายเครื่องช่วยต่างๆ ที่ตัวออกจนหมด และลงจากเตียง กระย่องกระแย่งไปเปิดตู้หยิบเสื้อผ้าของตัวเองออกมาเปลี่ยน

เวลาต่อมาธานินทร์ซึ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกมาจากห้องพัก เห็นพยาบาลเดินผ่านมา เลยหลบฉากจนพยาบาลเดินผ่านไป ธานินทร์จึงเดินต่อด้วยอาการอ่อนแรงเต็มที
ธานินทร์จะเดินไปที่ลิฟต์ แต่ต้องผ่านเคาน์เตอร์พยาบาล เมื่อเห็นว่าพยาบาลกำลังก้มหน้าก้มตาตรวจดูบันทึก ธานินทร์รีบเดิน บังเอิญพยาบาลเงยหน้าขึ้นมาเห็น ร้องเรียก
“คุณธานินทร์ คุณธานินทร์คะ”
ธานินทร์หยุดเดิน
“จะไปไหนคะคุณธานินทร์ ไปไม่ได้นะคะ”
“ผมต้องไปหาเขา” ธานินทร์บอก
“แต่ท่านป่วยอยู่นะคะ”
“ไม่ต้องมายุ่งกับผม ผมต้องไป”
ธานินทร์เดินต่อไปอย่างหมายมาดและมุ่งมั่น
พยาบาลพยายามโทร.หาหมอ
“ตามคุณหมอพงษ์ชัยให้ทีค่ะ”
ธานินทร์ไปถึงลิฟต์แล้ว กดเรียกลิฟต์ ลิฟต์เปิดออก ธานินทร์เข้าไป ประตูลิฟต์ปิด

ธานินทร์ประคองตัวเองออกมาที่หน้าโรงพยาบาล พอดีมีรถแท็กซี่แล่นเข้ามาจอดส่งผู้โดยสาร ธานินทร์ขึ้นแท็กซี่คันนั้น แล้วบอกที่หมาย แท็กซี่เคลื่อนออกไป
แท็กซี่ลับตาไปแล้ว หมอกับพยาบาลเพิ่งวิ่งออกมาที่หน้าโรงพยาบาล ไม่ทันเสียแล้ว
ชนกนันท์ขับรถเข้ามาจอดที่กลุ่มของหมอ และพยาบาลที่พยายามร้องเรียกธานินทร์อยู่ ชนกนันท์ลงมาจากรถ ตรงมาถาม
“ขอโทษนะคะ..ไม่ทราบว่า ธานินทร์ ไหนคะ”
“คุณธานินทร์ เลิศชัยวัฒน์ ค่ะ” พยาบาลบอก
ชนกนันท์ชะงัก ก่อนจะรีบขึ้นรถแล้วขับตามออกไปทันที

ภายในรถแท็กซี่ ธานินทร์นั่งอยู่ในรถ แม้จะเหนื่อยจากอาการป่วย แต่ในใจก็รู้สึกมีความสุข รำพึง เบาๆกับตัวเอง
“ก่อนฉันจะตาย ฉันต้องเจอเธอให้ได้ เพชรแท้”

คืนเดียวกันนั้นพรรณีกับพิณทองเดินกลับมาที่บ้าน เห็นไฟข้างในมืดๆ ก็รู้สึกแปลกใจ
“เพชรทำอะไรอยู่นี่ ทำไมไม่เปิดไฟ”
พิณทองเดินเข้าไปในบ้านเรียกหา “พี่เพชร พี่เพชร”
พิณทองเปิดสวิชท์ไฟ มองไปรอบๆ บ้านแต่ไม่เห็นพี่ชาย ก็ยิ่งแปลกใจ
“แม่จ๋า พี่เพชรไปไหนไม่รู้”
พรรณีมองหาเพชรแท้ เห็นเพชรแท้เดินถือกระเช้าส้มเยี่ยมผู้ป่วยมาจากหน้าบ้าน พรรณีรู้ทัน ยิ้มทักทาย
“ไปไหนมาลูก”
เพชรแท้พูดเสียงอุบอิบ “ไปซื้อของน่ะแม่”
พิณทองออกมาหน้าบ้านพอดี
“พี่เพชร” เห็นกระเช้าส้มในมือพี่ชายก็แปลกใจ “ส้ม...จะซื้อไปให้ใครน่ะ”
เพชรแท้รีบกลบเกลื่อน “ทำไมต้องซื้อไปให้ใคร”
“อ้าว” พิณทองชี้ที่กระเช้า “ก็ถ้าซื้อกินเองแล้วทำไม...” พรรณีทำหน้าปรามไม่ให้พูดต่อ พิณทองจึงเงียบไป
ส่วนเพชรแท้วางกระเช้าลง แล้วเดินเลี่ยงไป หลบหน้าหลบตา
“ไปอาบน้ำก่อนดีกว่า เหนียวตัว”
เพชรแท้เดินเข้าบ้านไป พิณทองแซวตามหลัง พรรณีเดินไปหยิบกระเช้าส้มขึ้นดู ยิ้มออกมาอย่างสุขใจ
“แม่จ๋า แม่คิดว่าพี่เพชร...”
“พิณเดาไม่ผิดหรอก เพชรทำเป็นปากแข็งไปยังงั้นเอง จริง ๆ ก็ใจอ่อนเหมือนพ่อของเขานั่นแหละ”
พรรณียิ้มกับพิณทอง สองคนต่างดีใจ ที่ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดี

รถแท็กซี่คันนั้นยังแล่นมาบนท้องถนนเรื่อยๆ ธานินทร์รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วสรรพางค์ แต่หน้าตามุ่งมั่นมาก

ห่างออกไปด้านหลัง รถของชนกนันท์ขับตามมาอยู่
ตอนค่ำคืนของวันนั้น เพชรแท้กำลังรื้อค้นหาของบางอย่างอยู่ในบ้าน แล้วในที่สุดก็หาจนเจอ เพชรแท้หยิบรูปภาพใบหนึ่งขึ้นมานั่งเพ่งมองรูปนั้น ซึ่งเป็นภาพเพชรแท้ตอนเด็กนั่งอยู่บนตักพ่อ

สักครู่หนึ่งพรรณีก็เดินเข้ามาในห้อง เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น
“เพชร...”
“จะมาพูดให้เพชรไปหามันใช่ไหม ยังไงเพชรก็ไม่ไป”
“แต่เพชรก็รู้แล้วนี่ เวลาของเขาเหลือไม่มากแล้ว”
เพชรแท้ไม่แยแส “ก็ช่างมัน”
“แต่เขาเป็นพ่อของเพชรนะ”
“เพชรบอกแม่แล้วไง ว่าเพชรมีพ่อเพียงคนเดียว แล้วเพชรก็รักพ่อของเพชร” พลางยื่นรูปในมือให้พรรณี “นี่ไงพ่อเพชร แม่จะให้เพชรลืมพ่อ แล้วยอมให้คนอื่นมาแทนที่พ่อของเพชรเหรอ”
พรรณีหยุดไปนิดหนึ่ง พอจะเข้าใจแล้วว่าเพชรแท้กำลังคิดอะไร “เพชรทำถูกแล้วที่รักพ่อที่เลี้ยงดูเพชรมา แม่ไม่เคยขอให้เพชรรักคุณธานินทร์ แต่แม่อยากให้เพชรไปหาเขา เขากำลังจะตายนะเพชร เขาอยากเห็นหน้าเพชร อยากเห็นหน้าลูกของเขา...ถึงเพชรไม่เห็นว่าเขาเป็นพ่อ อย่างน้อยก็เห็นแก่คนที่กำลังจะตาย ได้ไหมเพชร”
เพชรแท้สับสน นิ่งคิดครู่หนึ่ง “หมดหรือยังแม่ พูดหมดหรือยัง”
“เพชร แม่ขอร้อง”
“เพชรบอกแล้วไง แม่ เพชรทำไม่ได้ เพชรทำใจไม่ได้”
พูดเพชรแท้ก็เดินหนีไปเลย พรรณีได้แต่นิ่งงันไป ไม่กล้าพูดอะไรอีก

เวลานั้น อังคณานั่งหน้าเครียด ขณะที่ชนกนันท์โมโหโวยวาย สองแม่ลูกอยู่ในห้องรับแขก
“นกก็ทำใจไม่ได้เหมือนกันคะ คุณแม่ ถ้าจะให้ไปนับญาติกับไอ้สารเลวนั่น นกตายซะดีกว่า แค่นึกก็...” ชนกนันท์ทำท่ารังเกียจ “ขนลุกขนพองไปหมดแล้ว”
อังคณายังคงนิ่ง หน้าเคร่งเครียด ชนกนันท์โวยวายต่อไป
“ไม่อยากจะเชื่อว่าคุณพ่อจะลดตัวไปยุ่งกับผู้หญิงชาวบ้านต่ำๆ พรรค์นั้นได้ นี่เท่ากับมันก็กลายมาเป็นทายาทที่จะได้รับส่วนแบ่งมรดกของนกกับพี่ชนะ นกไม่ยอมนะคะ คุณแม่”
อังคณาตวาดเบาๆ “เงียบก่อนเถอะน่ะ...ใครบอกว่าแม่จะยอม”
“แต่คุณพ่อก็แบ่งให้มันไปแล้ว เราจะทำยังไงล่ะคะ...” ชนกนันท์คิด ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม “ให้ใครอุ้มมันไปทิ้งที่ไหนเลยดีไหม จะได้หมดปัญหาไป”
“พ่อแกทำพินัยกรรมแบ่งมรดกให้มัน...ถ้าไอ้เพชรแท้มันเป็นอะไรไป นังพรรณีกับลูกสาวมันก็รับช่วงต่อไป...แกไม่เจ็บใจยิ่งกว่าเรอะ”
“แล้วจะทำยังไงล่ะคะ แม่...ของของเราแท้ๆ นะคะ จะให้มันไปได้ยังไง”
“มันต้องมีวิธีที่ดีกว่านั้น เชื่อแม่เถอะยัยนก...มันต้องมีวิธี” สีหน้าอังคณานิ่ง แต่แววตาวาวโรจน์

วันต่อมาภายในห้องพักฟื้นคนไข้ ธานินทร์กำลังดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด หมอ และพยาบาลกำลังช่วยกันจับธานินทร์ฉีดยาระงับปวด ชนะศึกเปิดประตูห้องเข้ามา เดินก้าวไวๆ ไปที่เตียง
“คุณพ่อ!”
ระหว่างนั้นธานินทร์ออกอาการเพ้อ ดิ้นทุรนทุราย
“เพชร เพชรแท้ ฉันจะไปหาเธอ เพชรแท้”
ชนะศึกเห็นพ่อเจ็บปวด ก็ยิ่งเสียใจ
หมอฉีดยาเสร็จ ธานินทร์สงบลง คล้ายจะหลับ ชนะศึกถามหมอ
“อาการทรุดลงอีกแล้วหรือครับนี่”
หมอท่าทางหนักใจมาก “อาการคุณอาทรุดเร็วกว่าที่คิดเอาไว้มาก ท่านไม่มีกำลังใจจะรักษาตัวเองเลย แถมยังมีเรื่องกลุ้มใจสารพัด ถ้ายังเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ หมอก็ช่วยอะไรไม่ได้”
ชนะศึกขอร้อง “แต่พี่หมอต้องพยายามให้ถึงที่สุดนะครับ”
“ผมทำอยู่แล้ว แต่คนอื่นก็ต้องช่วยท่านด้วย”
ยินเสียงธานินทร์เพ้อออกมาอีกเบาๆ หมอกับชนะศึกหันไปดู
“เพชรแท้”
หมอสงสารยิ่งนัก “เวลาไหนที่เจ็บจนขาดสติ คุณอาจะเพ้อถึงแต่คนชื่อนี้ ท่าทางท่านคงจะอยากเจอเขามาก” พลางถอนหายใจ “เพราะไอ้ความผิดหวัง และความกังวลนี่แหละ อาการของท่านถึงได้ทรุดหนักลงทุกทีๆ”
ชนะศึกสะท้อนใจมองดูพ่อที่นอนมีสายระโยงระยาง ปากยังเพ้อถึงเพชรแท้ ชนะศึกเอามือทุบผนังด้วยความเจ็บใจ ร้องไห้ แล้วผลุนผลันออกจากห้องไป

ชนะศึกเดินไปตามทางเดิน เข้าลิฟต์ ด้วยอาการโกรธจัด ต่อมาไม่นานชนะศึกขับรถมาด้วยความเร็วและแรงในอาการโกรธแค้น

ชนะศึกขับรถมาจอดที่ริมถนนแถวนั้น เห็นเพชรแท้กับสมภพกำลังเดินออกจากซอยมาด้วยกัน
“ไอ้เพชรแท้!”
ชนะศึกพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะลงมาจากรถ ท่าทางเอาเรื่อง มุ่งตรงไปที่เพชรแท้อย่างเอาเรื่อง เพชรแท้ และสมภพหันมา เห็นชนะศึกท่าทางโกรธ
ชนะศึกเดินเข้าไปชกเพชรแท้เข้าเต็มแรง จนร่างเพชรแท้หงายหลังเซไป
สมภพตกใจ จะตรงเข้าทำร้ายร่างกายชนะศึก
“เฮ้ย! อะไรกันวะ”
“ไม่ต้อง”
เพชรแท้ร้องห้าม มองชนะศึก เห็นชนะศึกท่าทางโกรธจัด และเหมือนจะร้องไห้ ก็ชะงักไป
เพชรแท้ยกมือบอกสมภพ “ขอกูคุยกับมันก่อน” หันมาทางชนะศึก “มึงเป็นบ้าอะไรของมึง”
ชนะศึกไม่ตอบ ชกอีกเปรี้ยงระบายความโกรธ เพชรแท้ปากแตก เลือดไหลตรงมุมปาก เพชรแท้เห็นเลือด ก็นึกโกรธ เลยชกชนะศึกกลับบ้าง ชนะศึกถูกหมัดของเพชรแท้หงายเงิบไป ทั้งสองชกต่อยกันนัวเนีย ในที่สุดเพชรแท้ก็จับชนะศึกกระแทกดันเข้ากับรั้วสังกะสี
“มึงมาชกกูทำไม”
ชนะศึกแค้นจัด “พ่ออาการทรุดหนักลงทุกวัน วันนี้เขาเจ็บจนช็อก เกือบตาย...ไอ้เพชรแท้ แกเป็นลูกประสาอะไร พ่อเจ็บจนจะตายอยู่แล้ว แกยังไม่สำนึกอีกเรอะ”
“กูเกี่ยวอะไร กูไม่ได้ทำให้ใครตาย”
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ที่พ่อฉันเจ็บหนักขนาดนี้ก็เพราะแก!”
ชนะศึกผลักเพชรแท้เซไป เพชรแท้เป็นฝ่ายโดนกดกับรั้วบ้าง ชนะศึกระบายอารมณ์ใส่เพชรแท้
“ความจริงฉันน่าจะต่อยแกให้ตาย ให้สมกับที่แกทรมานพ่อฉัน” ทั้งคั่งแค้น และอัดอั้นจนแทบร้องไห้ “แต่ถ้าแกเป็นอะไรไป พ่อฉันคงขาดใจ...ให้ตายสิ ฉันไม่รู้ว่าพ่อฉันมีกรรมอะไรถึงต้องมารักคนอย่างแก แกไม่คู่ควรเลย พ่อฉันไม่ควรจะมีลูกชั่วๆ อย่างแกเลย”
ชนะศึกผลักเพชรแท้ออก จนเพชรแท้เซไป ชนะศึกมองตามอย่างโกรธแค้น
ชนะศึกชี้หน้าด่า “แกฟังไว้ ถ้าพ่อฉันตายไป ก็เป็นเพราะแกเป็นคนทำ ชาตินี้ทั้งชาติ ฉันจะไม่มีวันให้อภัยแกเลย”

ชนะศึกเดินกลับไปแล้ว เพชรแท้ได้แต่นิ่งอึ้ง สับสนว้าวุ่นใจอย่างหนัก
กระเช้าส้มยังวางอยู่ที่หน้าบ้าน เพชรแท้อาบน้ำเสร็จแล้ว อยู่ในชุดเสื้อกล้ามเตรียมเข้านอน แต่ยังคงนั่งคิดอะไรอยู่ ระหว่างนั้นพรรณีเดินออกมา มองเพชรแท้อยู่ครู่หนึ่ง แล้วนั่งลงข้างๆ

“คิดอะไรอยู่หรือ เพชร”
เพชรแท้ดูเป็นกังวล “ไม่รู้ว่าเพชรคิดถูกหรือเปล่า”
พรรณีสอนสั่ง “ถูกซี...การทำสิ่งดีๆ ให้กับคนที่เป็นบุพการีของเรา มันก็ต้องถูกอยู่แล้ว”
เพชรแท้กังวลไม่หาย “ที่ดีของเพชร อาจจะไม่ดีสำหรับเขา...เพชรไม่ใช่คนดีอะไร ถ้าเขาได้เจอเพชร มันอาจจะไม่ดีอย่างที่คิดก็ได้”
“กลัวไปทำไม ทุกอย่างที่เพชรคิด และทำ แม่เชื่อว่าต้องเป็นสิ่งที่ดีเสมอ เดี๋ยวเจอกัน เพชรก็รู้เอง” พรรณีลุกขึ้น “สามทุ่มแล้วนะลูก เข้าบ้านเถอะ”
“ครับ” เพชรแท้ลุกขึ้น เดินตามพรรณีเข้าบ้าน “แม่นอนเถอะครับ เดี๋ยวเพชรปิดประตูหน้าต่างเอง”
พรรณีพยักหน้า แล้วเดินเข้าห้องไป
เพชรแท้เดินไปจะปิดประตู ระหว่างนั้น มองไปเห็นกระเช้าส้ม ชายหนุ่มชะงักนิดหนึ่ง ครุ่นคิด แล้วหยิบกระเช้าส้มขึ้นมาดู สีหน้าลังเลใจ พึมพำกับตัวเอง
“ยังไงดีวะ...”
เพชรแท้ถือกระเช้าเดินออกไปนอกบ้าน

เพชรแท้เดินตรงไปยังถังขยะที่ปากทางเข้าบ้าน ชั่งใจอยู่ว่าจะทิ้งส้มดีหรือไม่ ระหว่างกำลังลังเลใจอยู่นั้น ก็มีเสียงเรียกจากข้างหลัง
“เพชรแท้”
เพชรแท้หันไปช้าๆ เจอธานินทร์ยืนอยู่ ถึงกับตะลึง คาดไม่ถึง
“คุณ”
“ฉันเอง...เธอไม่ยอมมาหาฉัน ฉันเลยมาหาเธอเอง”
เพชรแท้อึ้งไปนิดหนึ่ง
“ไหนๆ ฉันก็มาแล้ว คุยกับฉันซักคำได้ไหม” ธานินทร์ข่มความเจ็บป่วย เอ่ยออกไปเสียงนุ่มนวล
เพชรแท้หันหลัง เดินกลับเข้าบ้าน ไม่พูดอะไร
“เดี๋ยวก่อน เพชร”
เพชรแท้หันมาหา บอกด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “เข้ามาคุยกันข้างในเถอะ”
เพชรแท้หันหลัง เดินนำไป ในมือยังถือกระเช้าส้มอยู่ ธานินทร์เดินตาม สีหน้าดีใจ

เพชรแท้เดินนำธานินทร์เข้ามาที่หน้าบ้าน
“นั่งสิ” ธานินทร์นั่งลง ส่วนเพชรแท้ยืนอยู่ “คุณมีอะไรก็ว่ามา”
ธานินทร์ยิ้มเก้อๆ กระดากปาก “ความจริง ฉันมีอะไรอยากคุยกับเธอเยอะแยะ แต่พอได้เจอหน้าเข้าจริงๆ มันตื้อไปหมด ไม่รู้จะพูดอะไรก่อนดี”
เพชรแท้มองหน้าธานินทร์ เห็นแววตารักใคร่จริงจังในสายตาคู่นั้น เพชรแท้จึงเมินหน้าหลบ อึดอัดเหมือนกัน
ธานินทร์ยิ้มแย้มพยายามหาเรื่องคุย
“เล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวเธอให้ฉันฟังหน่อยซี”
“เรื่องอะไร”
“อะไรก็ได้ ที่เกี่ยวกับเธอ...เธอเกิดวันที่เท่าไหร่ เดือนอะไร เรียนจบที่ไหน เธอชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ฉันอยากรู้”
“จะอยากรู้ไปทำไม”
“ฉันอยากรู้จักเธอ ฉันอยากรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเธอ ทุกอย่างที่พ่อคนนึงควรจะรู้”
เพชรแท้หันมามองหน้าธานินทร์ เห็นแววตาคู่เดิมเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก จึงเมินหน้าหนีอีก
ธานินทร์เห็นกระเช้าส้มที่เพชรแท้วางไว้ “เธอไม่ชอบกินส้มเหรอ”
“เปล่า” เพชรแท้ขัดเขินไปหมด จึงตอบห้วนสั้น
“ถ้างั้น เธอจะเอาไปทิ้งเสียทำไมล่ะ ส้มยังดีๆ แท้ๆ”
เพชรแท้รู้สึกดีใจที่ธานินทร์ชอบ แต่ไว้ฟอร์ม “คุณชอบ...ก็เอาไปซี” เลื่อนกระเช้าส้มให้
ธานินทร์ยกขึ้นมาดู “ฉันเอาไปก็ทิ้งเปล่า ๆ
ธานินทร์หมายถึงตัวเองป่วยมาก กินอะไรไม่ค่อยได้แล้ว แต่เพชรแท้ไม่รู้ จึงน้อยใจ
“เรอะ...ถ้างั้นก็ทิ้งไปเลย”
เพชรแท้กระชากกระเช้ามาจากมือธานินทร์ โยนทิ้ง ส้มหกกระจาย ธานินทร์ตกใจ
“เพชร”
เพชรแท้มองธานินทร์ด้วยความน้อยใจ
“ผมก็ไม่รู้ว่าคุณชอบหรือไม่ชอบอะไร ผมไม่รู้จักคุณ เหมือนที่คุณไม่รู้จักผม...ยอมรับซะเถอะ เราเป็นคนไม่เคยรู้จักกัน มันไม่มีประโยชน์หรอกที่จะมาทำดีใส่กันตอนนี้ มันสายไปแล้ว”
เพชรแท้เดินหนีเข้าบ้านไป ธานินทร์อึ้ง มองส้มที่กระจายอยู่บนพื้น

เพชรแท้หนีเข้ามาในบ้านอย่างคับข้องหมองใจ ธานินทร์หยิบส้มที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา เพชรยืนมองอยู่ในบ้าน
สักครู่หนึ่งธานินทร์เดินตามเข้ามาในมือถือส้มที่แตกเละมาด้วย ธานินทร์มองเพชรอย่างเข้าใจ ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ส้มนี่...เธอซื้อมาให้ฉันใช่ไหม”
เพชรแท้ไม่ตอบ เมินหน้าหนีไป
“จริงๆ ฉันชอบกินผลไม้มากเลยนะ...น่าเสียดาย หลังๆ นี่ร่างกายของฉันมันไม่ยอมตามใจฉันเอาซะเลย...แต่วันนี้คงต้องยกเว้นซักวัน”
เพชรแท้หันมามอง เห็นธานินทร์พยายามแกะส้มออกมากิน ทั้งๆ ที่กลืนไม่ค่อยจะไหว
“หวานดีนะ” ธานินทร์ฝืนกินส้มต่อไปเรื่อยๆ สีหน้าสุขเหลือแสน
เพชรแท้ทนดูธานินทร์พยายามกินส้มไม่ไหว เข้ามาดึงมือไว้ “หยุดเถอะ ไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้”
“ไม่...ฉันอยากกิน ฉันอยากกินส้มนี่ ฉันไม่เคยอยากกินอะไรมากขนาดนี้มาก่อนเลย แค่ได้กินฉันก็มีความสุขแล้ว” ธานินทร์กินส้มต่อ แต่เกิดปวดท้องรุนแรง จนทรุดลง “โอ้ย”
เพชรแท้ตกใจ “คุณ คุณเป็นอะไร”
พรรณีกับพิณทองได้ยินเสียง โผล่พรวดออกมาจากห้อง สองคนตกใจที่เห็นธานินทร์
“คุณธานินทร์”
“ท่าน...ท่านเป็นอะไรคะ”

อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 9/2 วันที่ 15 พ.ย. 55

เค้าโครงเรื่อง : ทีมเอ็กแซ็กท์
บทโทรทัศน์ : กษิดินทร์ แสงวงษ์ , ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์
กำกับการแสดง : นิพนธ์ ผิวเณร
อำนวยการผลิต : นิพนธ์ ผิวเณร, ถกลเกียรติ วีรวรรณ
แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ออกอากาศ : จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 5
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่มตอนแรกอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manager.co.th